Page 76 - last update
P. 76

ผู้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลส าหรับตนเอง หรือบุคคลในครอบครัวของตน
                  ในกรณีดังต่อไปนี้

                         ๑) การเข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ ทั้งประเภทผู๎ปุวยนอกหรือผู๎ปุวยใน
                         ๒) การเข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังก าหนด

                  ประเภทผู๎ปุวยใน
                         ๓) การเข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนที่มิใชํสถานพยาบาลตาม (๒) ประเภทผู๎ปุวยใน
                  เฉพาะกรณีที่ผู๎มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือมีความจ าเป็นรีบดํวน ซึ่งหากมิได๎
                  รับการรักษาพยาบาลในทันทีทันใดอาจเป็นอันตรายตํอชีวิต

                         การเข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนตามที่กระทรวงการคลังก าหนดประเภท
                  ผู๎ปุวยนอกเป็นครั้งคราว เพราะเหตุที่สถานพยาบาลของทางราชการมีความจ าเป็นต๎องสํงตัวให๎แกํสถานพยาบาล
                  ของเอกชนนั้น ทั้งนี้ ไมํวําจะเป็นสถานพยาบาลของเอกชนตามพระราชกฤษฎีกาหรือไมํก็ตาม
                         กรณีเจ็บปุวยฉุกเฉินเข้ารับการรักษาพยาบาลประเภทผู้ปุวยนอก หรือผู้ปุวยในสถานพยาบาลเอกชน

                         ผู๎มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว เข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชน ทั้งด๎วยตนเอง หรือ
                  สํงตัวให๎เข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชน หากได๎รับการวินิจฉัยจากระบบการคัดแยกผู๎ปุวย
                  ฉุกเฉินของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหํงชาติวํา เข๎าเกณฑ์เป็นผู้ปุวยฉุกเฉินวิกฤตตามประกาศคณะกรรมการ

                  การแพทย์ฉุกเฉิน ผู๎มีสิทธิมีสิทธิได๎รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
                  เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการก าหนดคําใช๎จํายในการด าเนินการผู๎ปุวยฉุกเฉินวิกฤต จนกวําจะได๎รับ
                  การวินิจฉัยจากแพทย์ผู๎ท าการรักษาวําพ๎นภาวะวิกฤตและสามารถเคลื่อนย๎ายไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได๎
                  ไมํเกินเจ็ดสิบสองชั่วโมงนับแตํผู๎ปุวยฉุกเฉินวิกฤตเข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชน หลังจากนั้น
                  ในกรณีแพทย์ผู๎ท าการรักษาวินิจฉัยวํา

                         ๑) พ๎นภาวะวิกฤตและสามารถเคลื่อนย๎ายกลับไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได๎ แตํปฏิเสธการย๎าย
                  ผู๎มีสิทธิไมํมีสิทธิได๎รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับรักษาพยาบาลตามประกาศ
                         ๒) ยังไมํพ๎นภาวะวิกฤต และไมํสามารถย๎ายกลับไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได๎ให๎เบิกได๎ครึ่งหนึ่ง

                  ของจ านวนเงินทั้งหมดที่ได๎จํายไปจริง
                         ๓) พ๎นภาวะวิกฤตและสามารถย๎ายกลับไปยังสถานพยาบาลของทางราชการได๎ แตํไมํมีเตียง
                  สถานพยาบาล ของทางราชการรับย๎าย ให๎ผู๎มีสิทธิมีสิทธิได๎รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
                         กรณีที่ระบบการคัดแยกผู๎ปุวยฉุกเฉินวินิจฉัยวําผู๎มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ปุวยฉุกเฉินเร่งด่วน

                  ผู้ปุวยฉุกเฉินไม่รุนแรง ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ให๎ผู๎มีสิทธิมีสิทธิได๎รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับ
                  การรักษาพยาบาล ดังนี้
                         ๑.๑ คําห๎องและคําอาหารให๎เบิกได๎เชํนเดียวกับกรณีเข๎ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ
                         ๑.๒ คําอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบ าบัดรักษาโรคให๎เบิกได๎เชํนเดียวกับกรณีเข๎ารับการรักษา

                  พยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ
                         ๑.๓ คํารักษาพยาบาลประเภทอื่นๆ ให๎เบิกได๎ครึ่งหนึ่งของจ านวนเงินทั้งหมดที่ได๎จํายไปจริงแตํไมํเกิน
                  แปดพันบาท ผู๎มีสิทธิที่ขอเบิกเงินคํารักษาพยาบาล กรณีผู๎ปุวยฉุกเฉินเรํงดํวนและฉุกเฉินไมํรุนแรงกับสํวนราชการ
                  ต๎นสังกัดจะต๎องแนบ “ใบประเมินคัดแยกผู้ปุวยฉุกเฉิน” เพื่อประกอบการเบิกจํายทุกครั้ง





                                                                                                            67
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81