Page 62 - 123456_Neat
P. 62

57






           การตีราคาสินค้าคงเหลือวิธีราคาทุน

           1. ความส าคัญของการตีราคาสินค้าคงเหลือ

                       การตีราคาสินค้าคงเหลือ (Inventory  Pricing)  มีความส าคัญต่อการค านวณการขาดทุนของ
           กิจการค้า โดยเฉพาะในการค านวณราคาสินค้าคงเหลือปลายงวด ซึ่งต้องน าราคาสินค้าคงเหลือไป ค านวณหา

           ต้นทุนขาย และสินค้าคงเหลือก็จะน าไปแสดงภายใต้หัวข้อสินทรัพย์หมุนเวียนในงบแสดงฐาน การเงิน

           ดังนั้นการตราคาสินค้าคงเหลือจึงต้องให้ได้ผลถูกต้องใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด พอก การจัดท างบ
           การเงินของกิจการถูกต้อง

           2. วิธีการตีราคาสินค้าคงเหลือ

                       1. การตีราคาสินค้าโดยใช้ราคาทุน (Cost Method)

                       2. การตีราคาสินค้าโดยใช้วิธีพิเศษ (Special Method)

                       3. การตีราคาสินค้าโดยใช้วิธีการประมาณ (Estimating Method)
           3. การตีราคาสินค้าคงเหลือวิธีราคาทุน

                       กิจการทั่วไปนิยมใช้ราคาทุนในการตีราคาสินค้าคงเหลือ แต่เนื่องจากราคาทุนของสินค้ามีการ

           เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางครั้งไม่สามารถทราบว่าสินค้าชิ้นใด กลุ่มใด มีราคาเท่าใด การเลือกใช้ ราคา

           ทุนจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะประเภทของสินค้า ซึ่งมีอยู่หลายวิธีดังนี้

               3.1 การตีราคาตามราคาที่ซื้อจริงแต่ละครั้ง (Specific Identification)
                       กิจการที่จะใช้วิธีนี้ต้องมีการจดบันทึกสินค้าแต่ละชิ้นว่าซื้อมาเมื่อใด ราคาเท่าใด และสามารถ

           แยกแยะสินค้าตามราคาที่ซื้อได้ถูกต้อง

                       ตัวอย่าง กิจการมีสินค้าคงเหลือ 200 หน่วย สินค้าคงเหลือนี้เป็นสินค้าที่เหลือจากการซื้อครั้งที่ 2
                                จ านวน 150 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2 บาท และเหลือจากการซื้อในครั้งที่ 3 - จ านวน 50 ชิ้น

                                ราคาชิ้นละ 3 บาท

                       วิธีการค านวณ
                                  สินค้าคงเหลือ  150 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2 บาท        เป็นเงิน 300 บาท

                                  สินค้าคงเหลือ  50 ชิ้น ราคาชิ้นละ 3 บาท         เป็นเงิน 150 บาท

                                  สินค้าคงเหลือ  200 ชิ้น                         เป็นเงิน 450 บาท



                       วิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด นิยมใช้กับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือสินค้า ที่

           มีราคาสูง และมีจ านวนสินค้าไม่มาก
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67