Page 164 - EBOOK-TRON_2018
P. 164
ความสำาคัญและความเป็นมา
ปัจจุบันโรคพีอีดีสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างสูงจนประเมินค่าไม่ได้ เกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยง
ประสบปัญหาและไม่ต้องการอยู่ในธุรกิจการเลี้ยงสุกร รวมทั้งต้องแบกรับภาระการขาดทุน ซึ่งผลกระทบเหล่านี้
เป็นสาเหตุให้ฟาร์มสุกรมีจำานวนลดลง ส่งผลต่อความมั่นคงด้านการผลิตอาหารของประเทศ ดังนั้นถ้ามีแนวทาง
การป้องกันโรคและวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ จะทำาให้ลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก สามารถผลิตสุกรออกสู่ตลาด
ได้มากขึ้น และเกษตรกรยังคงอยู่ในธุรกิจการเลี้ยงสุกร
วัตถุประสงค์
1. ศึกษาปัจจัยเสี่ยงของการอุบัติซ้ำาของโรคพีอีดีและการสำารวจแหล่งสะสมเชื้อไวรัสพีอีดี
ในฟาร์มสุกรของประเทศไทย การนำาผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
2. ศึกษาความคุมโรคของนมน้ำาเหลืองต่อการติดเชื้อไวรัสพีอีดีซำ้าและการส่งผ่านของภูมิคุ้มกัน
โรคพีอีดีโดยผ่านน้ำานมเหลือง 1. การเผยแพร่ความรู้ในการป้องกันการระบาดซ้ำาของโรคพีอีดี
3. ศึกษาการผลิตดีเอ็นเอวัคซีนป้องกันโรคพีอีดีแบบกินต้นแบบเพื่อการพัฒนาสู่การผลิต และประเมินมาตรการการควบคุมโรคพีอีดีอย่างต่อเนื่องกับ
ในระดับอุตสาหกรรมสำาหรับเกษตรกรเพื่อใช้ในการป้องกันโรค สัตวแพทย์ สัตวบาลและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่จังหวัด
ราชบุรี ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก
2. การต่อยอดความร่วมมือกับภาคเอกชนในการทดสอบตลาด
จุดเด่น ผลิตภัณฑ์วัคซีนที่พัฒนาได้จากโครงการและการขยายกำาลัง
ได้องค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาการติดเชื้อแบบเรื้อรังของไวรัสพีอีดีในฟาร์มสุกร โดยทราบถึง การผลิตไปยังตลาดต่างประเทศ
ปัจจัยเสี่ยงของการระบาดซ้ำาของโรคพีอีดีในฟาร์มสุกร พบว่าเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1) การ
กลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสพีอีดี 2) ความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสพีอีดีที่คงอยู่ในสภาวะแวดล้อมต่างๆ
ได้นาน และ 3) การกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคเชื้อไวรัสพีอีดีที่ไม่ถูกต้อง นอกจากยังได้
ทดลองผลิตวัคซีนแบบกินที่ใช้ในการป้องกันโรคพีอีดีในระดับอุตสาหกรรมขนาดย่อม (scale
up process) และพบว่าสามารถนำาวัคซีนที่พัฒนาขึ้นไปใช้กระตุ้นภูมิได้ และต่อยอดเชิง
พาณิชย์ได้
165 | Thailand Research Expo 2018