Page 116 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 116
636
อันนี้จิตกับกายแยกจากกันอย่างไร มีตัวตนไม่มีตัวตน เพราะฉะนั้นถ้าเราแยกไม่ออกเราจะดับยาก ได้แต่ คิด ได้แต่มีความอยาก อยากดับอารมณ์นั้นกับปฏิเสธอารมณ์นั้น ขณะที่ปฏิเสธหรืออยากดับ มันก็มีเรา บางทีก็ทาให้ดับยาก แต่ถ้าดับให้ง่ายคือดับความรู้สึกว่าเป็นเรา ทาอย่างไร คือการแยกจิตออก ทาจิตให้ กว้าง เห็นไหม เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก
ถ้าเราแยกจิตได้ เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออกจากตัวสิ ลองดูรู้สึกเป็นอย่างไร เอาความรู้สึกว่าเป็น เราออกจากตวั ความเปน็ เราหายไป แลว้ ลองคดิ ถงึ เรอื่ งทเี่ รากา ลงั อยากอยู่ รสู้ กึ เปน็ อยา่ งไร พออยากขนึ้ มา ใครอยาก เราอยาก เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก แล้วความอยากเขาอยู่ไหม เขาอยู่ได้ไหม หรือว่าหายไป อันนี้มันว่างไปด้วยหรือเปล่า นี่คือเวลารู้สึกว่าได้ยินเสียงเขาพูดนินทาเรา รู้สึก...ไม่ชอบไม่สบายใจ เพราะ มีเราไหม...เพราะมีเรา เราก็ดับความรู้สึกว่าเป็นเราอีก ทาจิตให้กว้าง ๆ แล้วดูว่าเขาพูดถูกไหม ดับความ รู้สึกว่าเป็นเรา ดับความโกรธก่อน
จริง ๆ แล้ว พอดับความเป็นเรา สังเกตว่าพอดับความรู้สึกว่าเป็นเราออก ความโกรธยังอยู่ไหม ถ้า ดับแบบเด็ดขาดจริง ๆ ความโกรธไม่เหลือ แต่ถ้าแค่คิดว่า...ไม่ใช่ของเรา แต่ความเป็นเรายังมีอยู่ อันนั้น คิดว่า...อันนี้ไม่ใช่เรานะ แต่ยังลึก ๆ ความรู้สึกยังเป็นเราอยู่ อย่างไรก็ยังโกรธยังมีเศษอารมณ์อยู่ เพราะ ฉะนั้นดับต้องดับแบบไม่เหลือเศษ ดับความรู้สึกว่าเป็นเราปื๊บ ให้กว้างออกไป ที่จริงอันนี้จะได้ประโยชน์ อยา่ งหนงึ่ กค็ อื วา่ ไมใ่ ชว่ า่ เราตอ้ งโกรธ ไมโ่ กรธ ไมพ่ อใจ จรงิ ๆ แลว้ ยอ้ นกลบั มาดวู า่ เอะ๊ ! ทา ไม เราทา อะไร ที่เขานินทาพูดผิดพูดถูก...นินทา ถ้าเขาดูถูกเรา เราโกรธใช่ไหม แต่ถ้าเขาดูผิดล่ะ ส่วนใหญ่เขาดูผิดแหละ ที่เราโกรธเขาดูไม่ถูกหรอก ถ้าเขาดูถูกว่าเราพูดเป็นอย่างนี้ เราดีอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็จะรู้สึก เอ่อ! เขา เข้าใจเราจะไม่โกรธ
ถ้าเขาดูผิดเม่ือไหร่เราจะหงุดหงิดทันที ฉันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้วมาว่าฉันเป็น แบบนั้น แต่พอเขาดูผิดเราดึงมาใช้ให้เขาดูถูก เห็นไหม พอเขาดูผิดแต่เราก็ดึงมาเป็นของตัวเอง เพื่อที่ เขาจะได้ดูถูก กลายเป็นว่าเขาดูถูกฉัน เขาดูถูกว่าเราเป็นอย่างนั้น ก็คือเพราะเราไปรับเอาว่าเป็นของเรา เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีเราล่ะ เขาพูดถึงรูปนามอันนี้ ถ้าเราใช้ปัญญา
เราย้อนกลับมาหาพระพุทธเจ้าเจอปฏิกิริยาอย่างนี้ พระพุทธเจ้าได้คิดว่าใครดูถูก ไม่ดูถูก ตอน พระพุทธเจ้าไปบิณฑบาตร แล้วไปยืนหน้าบ้าน คนมายืนด่า ๆ ๆ ๆ อย่างเดียว ดูถูกไหม คนหัวโล้น คน ขอทาน คนที่ไม่มีงานทา อะไร...พูดแบบนี้ว่าไปเรื่อย ๆ พระพุทธเจ้ายืนนิ่ง ๆ แล้วก็ถามกลับพราหมณ์ว่า พราหมณ์เมื่อญาติมาบ้านแล้วพราหมณ์จะทาอย่างไร ก็จัดสารับกับข้าวเพื่อเลี้ยงญาติ ถ้าญาติไม่ทานข้าว นั้นล่ะ ข้าวนั้นอาหารนั้นจะตกเป็นของใคร ก็ตกเป็นของเจ้าของบ้าน พระพุทธเจ้าตรัส เราก็เหมือนกัน... พราหมณ์ สิ่งที่เธอด่าเรามาทั้งหมดเราไม่รับ เห็นไหม
คือพระพุทธเจ้าใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณาอย่างไร มองอย่างไรถึงพูดอย่างนั้น ถ้าคนไม่รู้จักกันมา ด่า ๆ นี่นะ เราจะไปโกรธอย่างไร เขาพูดเรื่องอะไรไม่รู้ เหตุผลอะไรไม่รู้ เขามองเราถูก เขาเข้าใจผิดหรือ เปล่าก็ไม่รู้ เราโกรธไปเลย สร้างกรรมขึ้นมา ปัญหาตามมา มีความทุกข์ไม่สิ้นสุด แต่ถ้าเรารู้สึกว่า เอ่อ! เขา