Page 119 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 119

639
เป็นอย่างไร การที่เรามีเจตนาที่จะใช้แบบน้ี ใช้ตรงนี้ใครได้ประโยชน์ คาถามก็คือว่า เราทาแบบนี้ใครได้ ประโยชน์มากที่สุด คือผู้ใช้ ผู้ทาเองเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นผู้รับทันทีที่มีอยู่ ที่เป็นอยู่แล้ว
คนอื่นที่ถูกมองอาจจะไม่ได้รับก็ได้ อาจจะรับไม่ได้ก็ได้นะ คือมองด้วยความเมตตา แต่ว่ารับไม่ ได้สายตาแบบนี้ เหมือนกับพอมองด้วยความเมตตา กลายเป็นว่า อะไรนะ...รับไม่ได้ บางคนกลายเป็นว่า ถ้ามองแบบแข็ง ๆ ขมึงทึง ก็จะรู้สึกค่อยยังชั่วหน่อย ถ้ามองด้วยความรู้สึกดีกลับรับไม่ได้ แต่น้อยคนที่ จะรับไม่ได้นะ คนดีมักจะรับได้ คนที่ไม่ดี ไม่ดีไม่ใช่ว่าไม่ดีตลอดนะ สภาพจิตไม่ดีขณะนั้นก็รับช้านิดหนึ่ง เพราะสภาพจิตไม่ดี จิตใจไม่ดี...มีความไม่ชอบ ความไม่ชอบก็คือตัวกิเลสมันกั้นอยู่ พอเห็นสิ่งดีก็รู้สึก ไม่ดี เห็นอารมณ์ที่ดีก็รู้สึกไม่ดี กลายเป็นว่าคือกิเลสกั้น คนอื่นให้ความปรารถนาดีแต่รับไม่ได้
อันนี้นี่แหละที่บอกว่าให้บุญไม่รับ หรือบอกบุญไม่รับ รับบุญไม่ได้ รับบุญไม่เป็น ที่ถามว่าแผ่บุญ แล้วเขาได้รับไหม ถ้าอยู่ในสถานะที่รับได้ก็ได้รับ ถ้าไม่อยู่ในสถานะที่รับได้ก็รับไม่ได้ คล้าย ๆ กันที่เราแผ่ เมตตาแผ่ความสุข แต่ถ้าเราแผ่ความสุขแบบนี้ เรามีบรรยากาศของความสุขความนุ่มนวล ความผ่องใส ของจิต ความบริสุทธิ์ของจิตห่อหุ้มตัวเองอยู่เรื่อย ๆ นี่ เดี๋ยวสิ่งที่เกิดขึ้นมาเขาก็จะซึมซับรับเข้าไปโดย ปรยิ าย เพราะอะไร เพราะจติ ทมี่ คี วามเมตตาแบบนี้ มคี วามสขุ มคี วามนมุ่ นวล เขาจะไมต่ อ้ งไปยดั เยยี ดให้ ไม่ต้องไป...ต้องรับนะ ต้องเอานะ จะไม่มี รับก็รับนะ รับไป แล้วให้ความรู้สึกมีเมตตาให้ความนุ่มนวลไป แล้วเขาจะค่อย ๆ ...
พอเราสงบ เรามีความสุขมีความสงบเดี๋ยวเขาจะค่อย ๆ สงบ เพียงแต่ว่าจะช้าจะเร็วก็ขึ้นอยู่กับสติ ปัญญาของผู้รับ หรือจิตของผู้รับเองว่า มีความหนาแค่ไหน เขาเรียกอะไรนะ...มีความหนาแค่ไหน จะหนา หรือมีความหยาบแค่ไหน มีความบางแค่ไหน มีความหยาบ มีความละเอียด มีความหนา มีความบางแค่ ไหน ถ้ามีจิตที่เป็นจิตที่เบาบาง ละเอียดอ่อนก็จะรับถึงความรู้สึกที่ดี ๆ อันนี้ได้ง่ายขึ้น เหมือนเรารับพลัง เหมือนพวกเราที่นั่งอยู่ มาปฏิบัติธรรม พอเราทาใจให้ว่างปุ๊บ พอทาใจว่าง ๆ ไม่มีตัวตน พอนิ่ง พลังตรงนี้ พลังในศาลานี้ก็จะแผ่เข้าไป เรารับได้ สัมผัสได้ถึงพลังของความดีที่ทุกคนแผ่ออกมา ๆ นี่ก็คือจิต จิตที่ดี ของเรา
ทีนี้ถามว่า เราพิจารณาเกี่ยวกับจิตตรงน้ีและส่ิงที่เกิดขึ้นก็คือว่า เมื่อไหร่ก็ตามท่ีเราทาความ ขัดแย้งกับความรู้สึกที่ดีของตัวเอง ทาความขัดแย้งกับความรู้สึกที่ดี พอเราจิตไม่ดีปื๊บ จิตที่ดีก็หดลง จาก ทอี่ อ่ นโยนอยกู่ ลายเปน็ แขง็ ขนึ้ มา แขง็ ไมใ่ ชแ่ ขง็ ธรรมดา แขง็ แลว้ แคบดว้ ย แตถ่ า้ แขง็ แลว้ มนั กวา้ งกย็ งั แบบ แข็ง ๆ ยังสงบ พอแคบปุ๊บ อันนี้กลายเป็นกระด้างเลย...ไม่ดี นี่คือวิถีจิตเขาเปลี่ยนเร็ว เพราะฉะนั้นการ เจริญสติตรงนี้ การที่เรา ที่บอกว่า ทาความดีให้เกิดขึ้น ปรารภความเพียร เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะ เลือนแห่งธรรม
ตัวนี้แหละ ตัวสาคัญเลย จิตที่ดีคือความดีที่เกิดขึ้นที่มีอยู่ เพื่อการตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือนของ จิตที่ดีนั้น ควรทาอย่างไร จิตที่สงบ จิตที่ผ่องใสที่มีอยู่แล้ว ทาอย่างไรมันจะใสขึ้น ความใสนี้จะตั้งอยู่นาน ก ค็ อื ก า ร ท เี ่ ร า ร แ้ ู บ บ ไ ห น จ ติ ถ งึ ใ ส ไ ด ้ เ พ ร า ะ เ ร า ร แ้ ู บ บ ไ ม ม่ ตี วั ต น ม เี จ ต น า ท รี ่ ช้ ู ดั ใ น อ า ร ม ณ ์ ใ ช ส้ ต สิ ม า ธ ปิ ญั ญ า


































































































   117   118   119   120   121