Page 125 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 125

645
ตรงนี้นิดหนึ่ง มันจะช่วยให้เราดียิ่งขึ้น ๆ เพราะฉะนั้นคือการเปิดใจของเราให้กว้าง พร้อมที่จะฟัง พร้อมที่ จะรับรู้ เพื่อการพัฒนา เพื่อความเข้าใจ รับรู้สิ่งรอบข้างเพื่อการพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น
ทนี จี้ ติ ของเราถา้ ไมอ่ ยากใหใ้ ครบอก เรากต็ อ้ งทา จติ ของเราใหก้ วา้ ง แลว้ คอยสงั เกตเหมอื นมกี ระจก รอบด้าน มีกระจกรอบด้านอย่างไร การที่เราทาจิตของเราให้กว้างอย่างที่เรามองรอบด้าน สารวจตัวเอง ให้รอบ ๆ ด้าน ถ้าจิตเรากว้างไม่มีตัวตน แล้วพร้อมที่จะดูตัวเองว่า เวลาเราเดิน เราก็สังเกตอากัปกิริยา ของเราเป็นอย่างไร เรารู้สึกได้ การขยับการเคลื่อนไหวของเรา เวลาจะพูดเราพูดคานี้ คนที่มอง คนที่ฟัง เป็นอย่างไร เราก็จะรู้สึกได้ แต่ถ้าเราไม่มองเลย เหมือนกับไม่มองกระจกอันนั้น เราแค่พูด ๆ ๆ โดยที่ไม่ สังเกต แล้วกระจกสะท้อนกลับมาเป็นอย่างไร ไม่ค่อยได้สนใจ เราก็จะมองไม่เห็น แค่แว็บเดียว ๆ ถามว่า เรามองด้านข้าง เราจะชัดเหมือนหันหน้ามองตรง ๆ ไหม...ก็ไม่
แตถ่ า้ เราหนั หนา้ มอง คอยสา รวจรอบ ๆ จติ ของเราพจิ ารณาใหร้ อบ ๆ ไป ลองดวู า่ พจิ ารณาใหร้ อบ ๆ สงิ่ ทเี่ รากา ลงั เปน็ สงิ่ ทกี่ า ลงั ทา อยู่ ควรจะปรบั ปรงุ ตรงไหนบา้ งใหด้ ขี นึ้ ถา้ ไมร่ กู้ ถ็ ามผรู้ ู้ ถา้ มผี รู้ ใู้ หถ้ ามกถ็ าม ผรู้ ู้ ถา้ ไมม่ ผี รู้ ใู้ หถ้ าม...เรากต็ อ้ งพยายามศกึ ษาหาความรพู้ จิ ารณาพฒั นาตวั เอง สงั เกตใหเ้ ยอะ เดยี๋ วกจ็ ะรขู้ นึ้ ที่จริงผู้รู้มีรอบตัว สิ่งที่จะเป็นครูเรามีอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ใบหญ้า ธรรมชาติ อากาศ สิ่งรอบข้าง ทปี่ รากฏขนึ้ มา เปน็ อารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ มา เหมอื นเปน็ ครเู ราทงั้ หมด สอนเราอยตู่ ลอดเวลา ถา้ เราใสใ่ จทจี่ ะฟงั ใส่ใจที่จะฟัง ใส่ใจที่จะศึกษา เราจะได้ปัญญาจากสิ่งนั้นอยู่เสมอ
แม้ต้นไม้เหี่ยวขาดน้า สอนเราว่า เอ่อ! นี่เพราะขาดน้า ต้นไม้สดชื่นพอได้น้าแล้วต้นไม้สดชื่นเพราะ อะไร รับความเย็นเข้าไปก็จะสดชื่น เพียงแต่ว่าเราศึกษาเรียนรู้ แล้วน้อมเข้ามาใส่ใจเราไหมว่า จิตใจของ เราที่ห่อเหี่ยว แห้งแล้ง ห่อเหี่ยว ไม่มีความสุขเป็นทุกข์ขึ้นมา ขาดอะไร...ขาดน้า ความสดชื่นด้วยอะไร ให้ อาหารใจแบบไหน ขาดเพราะความดี ความดีหายไป จิตเราแห้งแล้ง ขาดอาหาร ขาดอะไร ขาดความรู้สึกดี ขาดความเป็นบุญของตัวเอง มันแห้งแล้งเพราะอะไร เพราะถูกความร้อน เพราะมีผัสสะ เพราะมีอารมณ์ เข้ามากระทบเผาแผดเผาตลอดเวลา ทาไมเราห่อเหี่ยวแห้งแล้ว แล้วทาอย่างไร เห็นไหม นี่คือการศึกษา จากธรรมชาติอย่างหนึ่ง
ทาไมพอแห้งแล้งปื๊บ ต้นไม้ทิ้งใบ เพื่อที่จะรักษาต้นรักษาตัว ทิ้งใบมาเพื่อไม่ต้องดึงน้าไปเลี้ยงใบ เยอะเกินไป อันนี้คือ...สังเกตไหม สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนเราน้อมเข้ามาหาตัวเราพิจารณา...การศึกษา ทีนี้ถ้าเรา พิจารณาด้วยความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน ไม่มีเรา แล้วสังเกตดูว่า ทาอย่างไร ทาอะไร ขณะนี้เรากาลังทาอะไร อยู่ ทาดี...หรือยัง อย่างเช่นขณะนี้เราปฏิบัติ สติเราอยู่ปัจจุบันไหม สติดีไหม สมาธิดีไหม หรือว่าต้องเพิ่ม สมาธิไหม ต้องเพิ่มสติขึ้นไหม น้อมกลับมา ขณะที่เรา...หลุดแล้ว ทาอย่างไร สติหลุดไปเริ่มใหม่ สติหลุด ไปเรมิ่ ใหม่ อยา่ เพงิ่ โมโหตวั เอง ๆ ใหโ้ อกาสไดก้ ลบั เรมิ่ ตน้ ใหมด่ กี วา่ ไมม่ ใี ครไมห่ ลดุ หลดุ แลว้ ใหโ้ อกาสให้ จิตเราได้เริ่มต้นสิ่งดี ๆ เริ่มตั้งสติใหม่ ตั้งสติใหม่ ตั้งสติใหม่ ตั้งสติใหม่ อยู่เรื่อย ๆ ตั้งมากขึ้นบ่อยขึ้น ๆ เดี๋ยวก็จะตั้งเป็น เดี๋ยวจิตจะตั้งมั่นขึ้น สติตื่นตัวขึ้น จิตตั้งมั่น สมาธิมากขึ้น เขาก็ตั้งมั่นขึ้น สติก็มีกาลัง มากขึ้น ไม่ใช่แบบล้มแล้ว...ไม่ลุก ไม่ใช่อย่างนั้น นี่แหละการปฏิบัติธรรม


































































































   123   124   125   126   127