Page 126 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 126
646
ที่บอกว่าการที่เราพิจารณาสภาวธรรม แล้วน้อมเข้ามาใส่ใจของเรา ดูจิตใจที่บอกว่าจิตท่ีว่างเขาดี อยา่งไรจิตที่สงบเขาดอียา่งไรจิตที่เบาดีอย่างไรถา้เราร้วู่าเขาดีเราจะเพิ่มความดีของเขาเพิ่มกาลงัใหม้าก ขึ้นได้ อยากให้ดีกว่านั้นต้องเพิ่มกาลัง จิตที่ดีแล้วให้ดีให้มีกาลังมากขึ้น ถ้าอยากเดินหน้าไป ถ้ามันว่าง ๆ จิตที่ว่างดีแล้ว ทาจิตที่ว่างแล้วให้หนาแน่น มีพลังมากขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้น จิตที่ว่างสว่างขึ้น ใสขึ้น เบาขึ้น โล่งขึ้น ตั้งมั่นขึ้น นั่นคือพลังเขาก็เดินหน้าแล้ว ไม่ต้องไปหาอย่างอื่น รู้จิตที่ดีอยู่แล้ว แล้วรู้ให้ชัด เขาก็จะ เดินหน้าไปต่อได้ ไม่ต้องไปหาอะไร เพื่อที่จะเดินหน้า นี่คือตัวสาคัญ
เพราะฉะนั้นการพิจารณาธรรมสังเกตให้ดี อย่าคิดว่ามันว่าง ๆ เบา ๆ ไม่ดี ไม่มีอะไร จึงบอกให้รู้ ว่า ว่างเบาเป็นจิตของเรา เป็นสภาพจิตเรา เบาแล้วดี ดูให้ชัด ๆ แล้วลองดูว่าพอมันมีกาลังมากขึ้น ใช้อะไร ได้บ้าง ย้อนกลับไปเมื่อกี้น้ีว่า เราจะทาจิตที่ดีแล้วให้ดีมากขึ้นได้อย่างไร ตั้งอยู่นานมากขึ้นได้อย่างไร ก็ ด้วยการใช้งานเขา ไปใช้บ่อย ๆ ถ้าทาแบบนี้ สภาวธรรมเราจะเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ แล้วก็น้อมกลับมา พิจารณาแบบนี้อยู่เนือง ๆ ทาบ่อย ๆ ธรรมะจะได้ก้าวหน้า
นี่แหละคือการที่บอก รู้จักทาความดีที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ที่ดี...ที่ยังไม่เกิด ก็สารวจดูว่าอันไหน ที่ยังไม่ดี เราก็พยายามทาให้ดีขึ้น อันไหนที่ไม่ดี ที่ค้างอยู่ในใจติดตัวเราก็พยายามละ ปล่อยวาง ละวาง ลดละ เลิกทาอย่างนั้น แล้วก็พยายามทาให้ดีขึ้น ทาให้ดีขึ้น ทั้งทางกาย วาจา และใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราทาใจเข้าสู่ความดีได้ ให้พิจารณาจากใจที่ดีออกไป จากใจที่สงบออกไป แล้วจะรู้ว่า ถ้าอยากให้ใจที่สงบ ตั้งอยู่นาน ๆ ลองดูว่า ถ้าเราไม่ทาในสิ่งที่เราคิดว่า ทาแล้วนี่นะใจเราแป้วไป พลังความดีเราลดลง...ได้ไหม รู้สึกเป็นอย่างไร? เพราะฉะนั้นนี่แหละคือการพิจารณาสภาวธรรม
อนั ทจี่ รงิ เมอื่ ตอนบา่ ยบอกวา่ คงไมเ่ ทศน์ คงเทศนไ์ มไ่ ดแ้ ลว้ กระมงั เขาถามคา ถามเยอะ สองชวั่ โมง ถ อื ว า่ ค อ ร ส์ น นี ้ า่ จ ะ เ ป น็ ค อ ร ส์ พ เิ ศ ษ น ะ พ ร ง่ ุ น กี ้ ค็ ง จ ะ เ ป น็ ค อ ร ส์ พ เิ ศ ษ ม า ก เ ช ญิ อ า จ า ร ย ล์ ง ม า น งั ่ ข า้ ง ล า่ ง ค อ ร ส์ ทกุ คอรส์ อาจารยน์ งั่ ขา้ งบน นงั่ ขา้ งลา่ ง...พอนงั่ ขา้ งลา่ งไดอ้ ยใู่ กลโ้ ยคี รสู้ กึ อบอนุ่ นงั่ อยไู่ กลโยคเี กนิ ไป เดยี๋ ว โยคีก็ฟังแบบ...เหมือนโดดเดี่ยวนะ แบบนี้ดีแล้ว
ที่บอกไว้ว่าบางครั้งก็อาจจะขึ้นกระดาน อาจารย์เขียนกระดานไล่สภาวะบ้าง ถ้าสภาวะต้องขึ้น กระดาน แต่ถ้าไม่จาเป็นก็ไล่สภาวะแบบหลับตานี่แหละนะ หลับตาแล้วก็ทา ๆ ไป ลืมตาก็ทา ณ ปัจจุบัน จะได้แบบก้าวหน้าขึ้น อาจารย์ว่า...แบบสบาย ๆ แบบนี้ เป็นคอร์สที่สบาย ๆ หาคอร์สแบบนี้ยากมาก ถ้า คนเยอะกว่านี้ก็ไม่สบายขนาดนี้ ถือว่าโชคดีของพวกเรา โชคดีของอาจารย์แล้วกัน เป็นโชคดีของอาจารย์ อาจารย์จะได้นั่งแบบคุยแบบสบาย ๆ แต่เอาเรื่องนะ สบาย ๆ เรื่องจริง จะได้แบบเราสานต่อธรรมะ จะ ได้ก้าวหน้ามากขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ การแสดงธรรมมาก็เห็นสมควรแก่เวลา ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอ ความเจริญในธรรมจงมีแก่โยคีทุก ๆ คน เจริญพร
แผ่เมตตา... ก่อนที่เราจะได้ปฏิบัติธรรมต่อไปตามอัธยาศัยกันต่อไป เราฟังธรรมปฏิบัติธรรมมา ทั้งวัน เมื่อเราสวดมนต์ไหว้พระ ฟังธรรมแล้วเราแผ่เมตตากัน การแผ่เมตตาคือการแผ่บุญกุศลที่เราได้ทา ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ที่ทาให้จิตใจเราเกิดมีพลังของบุญ เป็นพลังของความสุข เป็น