Page 151 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 151
671
แบบนี้ ๆ เหมือนเรารู้จักตัวเองว่าเราเป็นแบบนี้ ๆ สิ่งข้างนอกเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นการที่เรากาหนดรู้ ปฏิบัติธรรม และพิจารณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้นที่เปลี่ยนไป ยิ่งเห็นจิตผ่องใสขึ้น สะอาดขึ้น สงบขึ้น เวลา อารมณ์อย่างอื่นที่ปรากฏข้ึนมาต่างออกไป เราก็แยกได้ชัดด้วย แล้วจิตที่มีกาลัง ที่มีบรรยากาศตรงนี้ บรรยากาศท่ีจิตกว้างจนมีบรรยากาศและมีกาลังขึ้น มันจะทาให้เรามีกาลังเด็ดขาดในการดับอารมณ์ ใน การดับอารมณ์ อารมณ์ที่ไม่พึงปรารถนานี้ไม่เอาแล้วก็ตัดไป ดับอารมณ์ ดับ ๆ ๆ ไม่เหลือเศษอารมณ์ หรือจบได้ง่าย เพราะไม่มีตัวตน
อันนี้ต้องใช้บ่อย ๆ นะ ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ชานาญ ไม่ชานาญ ไม่ใช้ยิ่งใช้ไม่เป็น ก็ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ ควร แต่โดยธรรมชาติของจิตก็คือว่า ถ้าเราไม่ได้ใช้เขาก็ตาม ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้ใช้ แต่ถ้าทาให้จิตดวง นี้มีกาลังมากขึ้น ๆ เราก็จะทาหน้าที่ของตนเองโดยปริยายเช่นเดียวกัน เขาทาหน้าที่ของเขาเอง สงบ...อะไร ปรากฏขนึ้ มากจ็ ะเหน็ วา่ จติ ทสี่ งบทา หนา้ ทรี่ บั รู้ จติ ทสี งบทา หนา้ ทเี่ กดิ ขนึ้ มา ทา หนา้ ทรี่ บั รอู้ ารมณน์ นั้ ๆ โดย ปริยายเช่นเดียวกัน นี่คือความมหัศจรรย์ของจิตเราอย่างหนึ่ง อ่ะ!หมดแล้ว (ตอบคาถามโยคี...ใช่ แล้วก็ ใช้จิตที่สุขนั่นแหละ จิตที่กว้างเป็นบรรยากาศนั้นรับรู้สิ่งนั้นสิ่งนี้ เขาก็จะอยู่กับเรานานไปเรื่อย ๆ จิตที่เป็น บรรยากาศทาหน้าที่รับรู้)
เพราะฉะนั้นวันนี้ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่โยคีทุก ๆ คน อ้า!เดี๋ยว แผ่เมตตานิดหนึ่ง ทบทวนเมื่อกี้นะ ดูสภาพจิต ดูบรรยากาศของสภาพจิต ขอให้เรายกจิตขึ้นสู่ความว่าง ความสขุ เพราะความสขุ เปน็ พลงั แหง่ บญุ ความสขุ ความอมิ่ ใจ ความสบายใจนนั้ คอื พลงั ของบญุ นนั่ คอื จติ ทเี่ ปน็ กศุ ล เพราะฉะนนั้ ทา จติ ทเี่ ปน็ บญุ เปน็ กศุ ลนนั้ ใหม้ กี า ลงั ใหเ้ ตมิ ทรี่ ปู ใหล้ น้ ใหก้ วา้ งจนเปน็ บรรยากาศ ที่สาคัญก็คือว่า เรารู้สึกว่าจิตของเราเต็มไปด้วยพลังบุญ มีความหนาแน่น มีความตั้งมั่นที่เต็มไปด้วยพลัง ของบุญ เมื่อไหร่เมื่อรู้สึกว่าจิตเราเต็มไปด้วยพลังของบุญ หรือจิตเราเต็มไปด้วยบุญแล้ว ให้อธิษฐานจิต ให้กับตนเอง ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ จงมาเป็นตบะเป็นพลวะเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีสติมีสมาธิมี ปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม และเข้าถึงธรรมโดยฉับพลัน
จากนั้นให้แผ่จิตที่เป็นบุญอันนี้ให้กว้างออกไปอีก ให้กว้างออกไป ไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ให้ กว้างเท่าจักรวาล แล้วตั้งจิตอธิษฐาน แผ่บุญกุศลอันนี้ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบา อาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมโลกเกิดแก่เจ็บตาย เทวดาทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ สถานที่ แห่งนี้และที่อื่น ๆ จงรับรู้ถึงบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนา แล้วถ้ามีทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกันก็ขอให้อโหสิกรรมซึ่ง กันและกัน เพื่อความเจริญความผาสุกในชีวิตตลอดไป
และสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์กุศลผลบุญต่าง ๆ ที่เราได้ทามา ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษา ศีล การเจริญภาวนาที่ทามาและกาลังทาอยู่นี้ จงมาเป็นตบะเป็นพลวะเป็นปัจจัย ให้เราทั้งหลายจงเป็นผู้มี ความเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้สาเร็จสมความปรารถนาทุก ๆ ประการ ตราบเข้าสู่ มรรคผลนิพพาน ด้วยกันทุกคนเทอญ