Page 18 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 18
538
ดับไป พิจารณาความเปลี่ยนแปลงของการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ว่าต่างจากเดิมอย่างไร เกิดขึ้นต่างจากเดิม อย่างไร ลักษณะการเกิดการดับการตั้งอยู่เปลี่ยนไปต่างไปอย่างไร สนใจอาการเกิดดับของรูปนามที่กาลัง ปรากฏเป็นที่ตั้ง รู้อย่างต่อเนื่องไปจนอาการสิ้นสุด ตามรู้อาการนี้หมดไปอารมณ์นี้หมดไป อารมณ์ใหม่ ปรากฏขึ้นมา ก็ตามกาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้
คาว่ากาหนดรู้ คือการรู้ชัดในอาการที่กาลังปรากฏอยู่โดยเฉพาะหน้า ขณะนี้เดี๋ยวนี้จริง ๆ เหมือน เรามเี จตนาทจี่ ะเขา้ ไปรใู้ หช้ ดั วา่ อาการนเี้ ปน็ อยา่ งไรนนั้ เขาเรยี กขอ้ กา หนดรู้ อนั นนั้ เรยี กวา่ รชู้ ดั ในรู้ รชู้ ดั ใน อาการที่กาลังปรากฏว่าเป็นไปอย่างไร รู้สิ่งไหนก็รู้ชัดในการรู้สิ่งนั้น รู้อารมณ์อันนั้นว่าจะเบาจะบางจะจาง จะใสจะไวจะช้า จะเร็วจะช้าก็ให้รู้ชัดตามอาการอันนั้น คือตามกาหนดรู้อารมณ์ที่กาลังปรากฏอยู่เฉพาะ หน้าเรา ว่าเขาเกิดดับอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นั่นคืออารมณ์ปัจจุบันที่กาลังปรากฏ เพราะ ฉะนั้นสังเกตดี ๆ
การที่เราทาจิตให้ว่าง สารวจดู นอกจากการสารวจดูสภาพจิตที่เปลี่ยนไป ที่ผ่องใสที่สงบที่ว่างขึ้น แลว้ กต็ อ้ งพจิ ารณาอาการทปี่ รากฏตอ่ ไป วา่ เขาเกดิ ดบั อยา่ งไร มอี าการอะไรปรากฏเกดิ ขนึ้ มา แมแ้ ตค่ วาม ใสเอง แม้แต่ความรู้สึกที่ใสอยู่ข้างหน้า แม้แต่ความรู้สึกที่สงบที่อยู่ข้างหน้า หรือว่าภายในจิตใจของเรา ลึก ๆ นะ ถ้าไม่มีอาการเกิดดับอย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏเกิดขึ้นมาข้างหน้า แต่ว่าข้างในใจลึก ๆ แล้วรู้สึก สงบหรือรู้สึกใส ก็ไปดูตรงนั้นแหละ เข้าไปรู้ที่ความใสข้างใน เข้าไปรู้แล้วความใสเขาเปลี่ยนไหม เปลี่ยน อย่างไร ถ้ารู้สึกสงบลึก ๆ เข้าไปรู้ข้างในความสงบลึก ๆ แล้วเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เขาเรียกดูจิต ในจิต เป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้น แม้แต่ความใสความสงบก็ยังมีการเปลี่ยนแปลง
ลองพจิ ารณาใหด้ ี ๆ กา หนดรอู้ ยา่ ใหค้ ลาดสายตา อาการไหนปรากฏขนึ้ มากเ็ ขา้ ไปรู้ แลว้ เราจะเหน็ วา่ คาว่าอารมณ์ปัจจุบันนั้นไม่ใช่มีแค่อารมณ์เดียวนะ อารมณ์ปัจจุบันเขาจะเปลี่ยนสลับเปลี่ยนกันได้ จาก ลมหายใจเป็นอาการเต้นของหัวใจ จากอาการเต้นของหัวใจเป็นความคิด จากความคิดเป็นความใส จาก ความใสเปลยี่ นเปน็ ความสงบกไ็ ด้ หรอื เปลยี่ นไปเปน็ เสยี งกไ็ ด้ นนั่ คอื อารมณป์ จั จบุ นั เพราะฉะนนั้ อารมณ์ ไหนที่ปรากฏชัดขึ้นมา ก็ให้มีสติเข้าไปกาหนดรู้อารมณ์นั้น ในการเข้าไปกาหนดรู้นี่นะ เป้าหมายคือ ควรจะ ตามกาหนดรู้อารมณ์ใด ถ้าไปรู้ว่าอารมณ์ไหน ควรจะรู้อาการอารมณ์นั้น ตามจนจบจนหมดไปจนหายไป ควรจะตามจนจบจนหมดจนหายไป หรือจนกว่าอารมณ์ใหม่จะแทรกเข้ามา...เด่นกว่า ค่อยไปเปลี่ยนมา รู้อารมณ์ที่ชัดกว่าเด่นกว่า ก็มีเป้าหมายกาหนดในลักษณะเดียวกัน...เขาเกิดดับ ตามรู้จนจบจนหมดไป
ตามรู้ในลักษณะอย่างนี้จิตเราจะมีอารมณ์ทีละอย่าง ถ้าการรับรู้ครั้งละหนึ่งอารมณ์ ครั้งละหนึ่ง อารมณ์ในลักษณะอย่างนี้ จะทาให้สมาธิเราตั้งมั่นขึ้น สติเราก็จะชัดเจนรู้ชัดในอารมณ์ที่กาลังปรากฏ ถึง แม้บางครั้งมีหลาย ๆ อย่าง แต่ว่าไม่เด่นไม่ชัดเจน ปรากฏสองสามอย่างแต่ชัดเจนอยู่อารมณ์เดียว ให้ เลือกอารมณ์ที่ชัดที่สุด นอกนั้นไม่ต้องไปกังวลหรือไม่ต้องใส่ใจ ไม่ต้องไปกลัวว่าเขาจะหายไป เรากาหนด อารมณ์ที่ชัดที่สุดก่อน เมื่ออารมณ์ที่ชัดที่สุดหมดไปแล้ว อารมณ์อื่นเขาจะปรากฏชัดขึ้นมาเอง ถ้ายังมีอยู่ หรือถ้าอารมณ์ที่ชัดที่สุดหมดไป เปลี่ยนจิตเป็นว่างไปเลย อารมณ์ทั้งสองสามอย่างก่อนหน้านี้หายไปด้วย