Page 16 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 16
536
จะเปลี่ยนไปอาจจะแย่ลงหนักขึ้น แทนที่จะรู้สึกโล่งขึ้นสบายขึ้น ก็จะมีตัวตนมากขึ้นหรือเอาแต่ใจมากขึ้น เคยเห็นไหม พอตอนหนุ่ม ๆ ทาอะไรก็ได้ดั่งใจหมด พออายุมากขึ้นไม่ได้ดั่งใจก็เอาแต่ใจ แล้วทีนี้กลาย เป็นแบบนั้นไป นั่นก็คือเหตุปัจจัยที่เขาเปลี่ยน แต่ถ้าเราเข้าใจแบบนี้ปุ๊บ อายุมากขึ้น แล้วต้องไม่เอาแต่ใจ มากขึ้นก็ปล่อยวางมากขึ้น ปล่อยวางมากขึ้นสบายมากขึ้นสงบขึ้นไป ด้วยเหตุปัจจัยของเขา
เพราะฉะนั้นการที่เราจะประคองจิตรกั ษาจิตเรา เราต้องดสู ภาพจิตของเราให้เยอะให้บ่อย ดูสภาพ จิตให้บ่อย ๆ เราจะเห็นว่าสภาพจิตเราดีอย่างไรไม่ดีอย่างไร เวลาดีควรทาอย่างไร เวลาไม่ดีควรทาอย่างไร เห็นไหมวิธีประคองจิตนิดเดียวเอง ทีนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า การที่เราจะประคองจิตอย่างเดียวก็เป็นการ ประคองอยากให้อยู่เหมือนเดิมก็ยึดอีกนะ กลายเป็นยึด เพราะฉะนั้นการมีสติตามรู้อาการอยู่เรื่อย ๆ ดู สภาพจิตที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มันก็พัฒนาไปเอง แทนที่จะพยายามให้อยู่แค่นี้ อันนี้ดีแล้ว อยากยึดอันนี้ อันนั้นก็เป็นอุปาทานอีก...ยึดอีก ให้ดูให้ดีขึ้นไป ยังมีดีกว่านี้ อย่าลืมว่ายิ่งพิจารณายิ่งดีขึ้น ยิ่งรู้ชัดยิ่ง เปลี่ยนแปลง จิตเขาก็ยิ่งดีขึ้นไป อาการพระไตรลักษณ์ ความเปลี่ยนแปลงนี่นะทาให้จิตเราผ่องใสขึ้น
การสนใจอาการพระไตรลักษณ์ ทาให้เราคลายมากขึ้น สภาพจิตเขามาเอง สติดีขึ้นปัญญามากขึ้น เขาจะใสขึ้นเอง เป็นไปตามเหตุปัจจัยอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลนะ ความเข้าใจให้เข้าใจในสิ่งที่เรา เขา้ ถงึ มนั จะเปน็ ความจรงิ นะ เราเขา้ ใจในสงิ่ ทเี่ ราเขา้ ไมถ่ งึ เดยี๋ วกเ็ ขา้ ใจคลาดเคลอื่ นได้ แตเ่ ราเขา้ ถงึ แลว้ เรา ก็จะเป็นอย่างนี้ เป็นแบบนี้ มากน้อยแค่ไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง ทาความเข้าใจไปเรื่อย ๆ ยังมีละเอียดอีกเยอะ สภาวธรรมธรรมะนี่นะ ยังมีให้เราพิจารณาศึกษาต่อไปเรื่อย ๆ จนโน่น จนสิ้นอาสวกิเลส
ขนาดสนิ้ อาสวกเิ ลสแลว้ กย็ งั ตอ้ งศกึ ษานะ ศกึ ษาวา่ ดอี ยา่ งไรไมด่ อี ยา่ งไรตอ่ ไป ทา ความเขา้ ใจสงิ่ ที่ อยู่รอบตัวต่อไป เพราะโลกเราเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ยังมีสิ่งให้เรียนรู้อีกเยอะ แต่การที่เรียนรู้สิ้นอาสวกิเลสก็ เรื่องหนึ่ง เรียนรู้โลกก็เรื่องหนึ่ง แต่อาศัยกันไปได้นะ เข้าใจต่อเนื่องกันได้ ปัญญาสามารถทาให้เราเข้าใจ ทุกสิ่ง ยิ่งถ้าเราสังเกต ยิ่งถ้าเรารับรู้ด้วยความรู้สึก ความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน รับรู้ด้วยความรู้สึกที่ผ่องใส รับรู้ด้วยความรู้สึกที่ว่างผ่องใสไม่มีเรา พร้อมที่จะเข้าใจ อันนี้ปัญญาจะเกิดขึ้นได้ง่าย พร้อมที่จะเข้าใจ ปัญญาจะเกิดขึ้น เข้าใจได้ง่าย
เพราะฉะนั้นลองดูสิตอนนี้ขณะนี้ กลับมาดูขณะที่เรานั่ง สภาพจิตตอนนี้รู้สึกเป็นอย่างไร อาจารย์ พูดถึงความใส อาจารย์พูดถึงความใสก็จริง แต่ว่าขณะนี้ลองดูว่า จิตเราใสหรือไม่ใส อย่าบอกว่าใสเหมือน อาจารยพ์ ดู ทกุ คา เลยนะ...ไมผ่ ดิ หรอก อาจารยย์ กตวั อยา่ ง ยกตวั อยา่ งวา่ ถา้ จติ เราใสเปน็ อยา่ งไร ทนี ลี้ องดู วา่ ถา้ จติ เราสงบ เปน็ ความสงบทอี่ ยเู่ ฉพาะหนา้ หรอื เปน็ ความสงบทไี่ มม่ ขี อบเขต ทนี สี้ งั เกต ถา้ ความสงบอยู่ เฉพาะหน้ากับสงบที่ไม่มีขอบเขต รู้สึกเป็นอย่างไรอันไหนสบายกว่ากัน ให้สงบแล้วกว้าง
ลองดูเรากาลังนั่งอยู่ ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่เต็มแน่นไปหมดเลย ลองเปลี่ยนบรรยากาศให้จิตที่ว่าง กวา้ งไมม่ ขี อบเขตเลย แลว้ ลองดวู า่ การนงั่ ของเรา นงั่ อยใู่ นทวี่ า่ ง ๆ นงั่ อยทู่ า่ มกลางความวา่ งทไี่ มม่ ขี อบเขต รปู ทนี่ งั่ อยรู่ สู้ กึ เปน็ อยา่ งไร นงั่ อยทู่ า่ มกลางความวา่ งอยา่ งไมม่ ขี อบเขต รปู ทนี่ งั่ รสู้ กึ อยา่ งไร ผอ่ นคลายหรอื