Page 66 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 66

586
การปฏิบัติก้าวหน้าขึ้น ก็คือความเพียร มีความเพียร ใส่ใจ พอใจ และเห็นอย่างนี้แล้ว เราเชื่ออะไร เชื่อใน สิ่งที่เห็น ความศรัทธาเชื่อมั่นในสภาวธรรมที่ปรากฏ เชื่อมั่นในตนเอง ในการปฏิบัติของตนเอง
เชอื่ มนั่ อยา่ งไร...วา่ เรากส็ ามารถเหน็ สภาวธรรมนนั้ ได้ เขา้ ถงึ สภาวธรรมนนั้ ได้ เรากส็ ามารถขดั เกลา จิตให้มีความสว่าง ความใสได้ เชื่อมั่นว่าเราทาจิตให้สะอาดได้ แม้ชั่วขณะหนึ่ง ๆ แม้ชั่วขณะหนึ่ง ๆ หนึ่ง ชั่วโมง สองชั่วโมง สิบนาที ยี่สิบนาทีก็ตาม นั่นเป็นตัวบอกว่า...ทาได้ ถ้าทาไม่ได้ ไม่สามารถตั้งอยู่ได้หนึ่ง ชั่วโมงหรอก อย่าว่าแต่หนึ่งชั่วโมงเลย หนึ่งนาทีก็ไม่สามารถเห็นจิตที่สว่าง หรือใสได้...ถ้าทาไม่ได้ นั่นคือ เปน็ ตวั บอกวา่ ศกั ยภาพ กา ลงั ของเรานนั้ สามารถปฏบิ ตั .ิ ..เขา้ ถงึ ได้ สามารถเขา้ ถงึ ได้ เหน็ ไดถ้ งึ สภาวธรรม ที่เกิดขึ้น
อันนั้นเหลืออย่างเดียว คือความเพียร ความตั้งใจ ทีนี้กลับมาสู่ปัจจุบัน ขณะที่เรากาลังนั่งอยู่ ขณะ เรากา ลงั นงั่ นอี่ ยู่ สา รวจอะไรบา้ ง เราดจู ติ จติ มคี วามสงบ มคี วามเบา มคี วามสวา่ ง มคี วามเบา มคี วามสวา่ ง มีความผ่องใส สารวจดูจิตเป็นอย่างนี้ เมื่อจิตเป็นอย่างนี้ ลองสังเกตดูว่า แล้วรูปที่นั่งอยู่เป็นอย่างไร รูปที่ นั่งอยู่ ตัวที่นั่งอยู่ มีความผ่องใส มีความสงบ หรือมีความตื่นตัว มีความตั้งมั่นด้วยไหม เขาเรียกกายตรง จิตตรง เป็นอย่างไร จิตที่ตั้งมั่นขึ้นนะ จิตที่ตั้งมั่นขึ้น ผ่องใสขึ้น
ถ้าอยู่ที่ตัวด้วย...มาอยู่ที่รูป ที่รูปก็มีความผ่องใส มีความตั้งมั่น ลองดูว่า รูปที่นั่งอยู่รู้สึกอย่างไร มีความตั้งมั่นขึ้น ตัวตรงขึ้นไหม หรือมีความอ่อน มีความมัว ๆ สลัว แต่ถ้าจิตตั้งมั่นมีความผ่องใส รูป ก็จะต้องเป็นไปแบบเดียวกัน ตรงนี้จะเห็นว่า เราไม่ได้ทิ้งรูป แต่ไม่มีรูป ไม่ทิ้งรูป ไม่ลืมรูป แต่ก็ยังรู้ว่าที่ รูปเป็นอย่างไร เมื่อที่รูปเป็นอย่างไร อันนี้อย่างหนึ่ง ไม่มีรูปร่างของรูป แต่รู้ว่าบริเวณรูปมีความผ่องใส มี ความตั้งมั่น ข้างหน้ามีความสว่าง
แลว้ สงั เกตวา่ สองจดุ นี้ จดุ ไหน...ทรี่ ปู กบั ขา้ งหนา้ รปู นนี่ ะ จดุ ไหนมกี ารเปลยี่ นแปลง มอี าการเกดิ ดบั มีสภาวธรรมเกิดขึ้น ถ้ารู้สึกอยู่ข้างหน้า ก็ว่าง ๆ นิ่ง ๆ แต่พอมาอยู่ข้างใน มาพิจารณา สังเกตภายในรูปที่ นั่งอยู่ มีความสว่าง มีความตั้งมั่น เมื่อมีสติเข้าไปกาหนดรู้ ความสว่างที่รูป ความตั้งมั่นที่รูป เมื่อเอาความ รู้สึกเข้าไป หรือสติเข้าไปรู้ ความสว่างนั้นสว่างขึ้น ๆ ความตั้งมั่นมีความหนาแน่นขึ้น มั่นคงขึ้นกว่าเดิม นั้นเห็นการเปลี่ยนแปลง นั่นคือสภาวธรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้กาหนดรู้อาการ เปลี่ยนแปลงที่รูป ที่ความตั้งมั่น ความสว่าง ที่บริเวณรูป ที่มีการเปลี่ยนแปลง
สงั เกตอยา่ งไร การกา หนดรนู้ นี่ ะ คอื สงั เกตแตล่ ะขณะ มสี ตเิ ขา้ ไปกา หนดรแู้ ตล่ ะครงั้ เขา้ ไปกา หนดรู้ แต่ละขณะ ๆ ทีหนึ่ง ความสว่างมีอาการสว่างเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีความตั้งมั่นเพิ่มขึ้น ขณะนี้...พอเข้าไป ขณะ ตอ่ ไป ความสวา่ งความตงั้ มนั่ เปลยี่ นไปอยา่ งไร ขณะตอ่ ไปเขา้ ไปอกี อาการ ความสวา่ ง ความตงั้ มนั่ เปลยี่ น อย่างไรอีก คือกาหนดเป็นขณะ ๆ ๆ เข้าไป กาหนดรู้แบบนี้ พอกาหนดรู้แบบนี้ต่อเนื่องไปสักพัก อาการ ที่เปลี่ยนแปลงกลายเป็นสภาวะ เป็นอาการพระไตรลักษณ์ จัดเป็นอาการเกิดดับของอารมณ์ที่เกิดขึ้นมา กาหนดรู้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องไปหาอาการเกิดดับอย่างอื่น


































































































   64   65   66   67   68