Page 68 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 68
588
ทุกขลักษณะ ทุกขลักษณะคือการเกิดขึ้นแล้วต้องดับไป มีแล้วหมดไป มีแล้วหายไป ไม่สามารถตั้งอยู่ อย่างนั้นได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น สิ่งที่โยคีพึงกาหนดรู้ คืออะไร รู้ทุกขลักษณะ เพราะนั่นคือลักษณะ ของไตรลักษณ์ ที่แสดงลักษณะที่เสมอกันแก่สังขารทั้งปวง แก่ธรรมทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นเวทนาขันธ์ สังขาร ขันธ์ วิญญาณขันธ์ ก็ตั้งอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
เพราะฉะนนั้ เวลาเขา้ ไปกา หนดรอู้ าการ เขา้ ไปกา หนดรอู้ ารมณ์ เรากา หนดรลู้ กั ษณะของสภาวธรรม ที่เกิดขึ้น รู้ถึงกฎของไตรลักษณ์เป็นสาคัญ เวทนาที่เกิดขึ้นมานั้น เกิดดับลักษณะอย่างไร ไม่ใช่ปวดมาก แค่ไหน ปวดมากแค่ไหนเรารู้อยู่แล้ว เวลามีความปวด ปวดตรงนี้ ปวดมากเลย ปวดทนยาก ปวดแปล๊บ เหมือนเข็ม ปวด...เดี๋ยวมีอาการคันยิบ ๆ เหมือนมดกัด เหมือนแมลงไต่ตลอดเวลา นั่นก็คือเป็นเวทนา อย่างหนึ่ง แต่เวทนานั้น เกิดดับในลักษณะอย่างไร นั่นตัวสาคัญ
เพราะฉะนั้น ในการเข้าไปกาหนดรู้ความเวทนา ทุกขเวทนาคือทุกขลักษณะ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหมดไป มีแล้วหายไป รู้อาการพระไตรลักษณ์อย่างนี้เป็นสาคัญ ยิ่งถ้าเราเห็น วา่เวทนาเกดิอยใู่นทวี่า่งๆเวทนาเกดิอยใู่นความวา่งทนีี้เกดิอยใู่นความวา่งอยา่งเดยีว...พอไหมหรอืควร จะสังเกตอะไรขึ้นอีก ถ้าให้ดีก็คือว่า...ความว่าง เวทนาที่ปรากฏอยู่ในความว่าง เกิดอยู่ในความว่าง ความ ว่างนั้นเป็นอะไร เป็นความสงบ ว่างจากตัวตน ไม่มีรูปร่าง แล้วอยู่ในความสงบ เกิดอยู่ในความใส เกิด อยู่ในความเบา เกิดอยู่ในบรรยากาศของความรู้สึกที่นุ่มนวลอ่อนโยน อันนี้ ถ้าสังเกตแบบนี้อีก ก็จะเป็น การดี
เ พ ร า ะ อ ะ ไ ร บ ร ร ย า ก า ศ ท รี ่ อ ง ร บั เ ห ม อื น เ ป น็ ส ภ า พ จ ติ ท รี ่ อ ง ร บั อ า ร ม ณ เ์ ว ท น า น นี ่ ะ เ ห ม อื น เ ป น็ อ า ร ม ณ ์ ฌาน หรือเป็นกาลังของสมาธิขณะนั้น...เป็นอย่างไร สภาพจิตขณะนั้นเป็นอย่างไร การที่มีบรรยากาศ แบบนี้ การทสี่ งั เกตแบบนี้ กจ็ ะเหน็ วา่ การรบั รเู้ วทนาทปี่ รากฏอยใู่ นความวา่ งนนี่ ะ การทมี่ บี รรยากาศความ ว่างรองรับ มีความสงบ มีความเบา มีความใสรองรับ อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นการรับรู้ ด้วยความรู้สึกที่พ้น ไกลจากความเป็นอัตตา จะทาให้เวทนาที่เกิดขึ้นนั้น จะบีบคั้นจิตใจให้เกิดความขุ่นมัวเศร้าหมองนั้น เป็น ไปได้ยาก หรือเกิดขึ้นได้ยาก เกิดขึ้นได้น้อย กิเลสเกิดขึ้นได้ยาก เพราะเห็นถึงความไม่มีตัวตน เห็นถึง ความเป็นอนัตตา
การรับรู้เวทนา ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน ไม่มีเรา การรับรู้เวทนาด้วยความเป็นอนัตตา กิเลสไม่ เกิดนะ กิเลสไม่เกิด โมหะไม่เกิดขึ้น โลภะไม่เกิดขึ้น โทสะก็ไม่เกิดขึ้น จิตก็ปรับเป็นจิตที่สงบ จิตเป็นความ สงบ เป็นความผ่องใส มีความตั้งมั่น มีความเข้าใจถึงความเป็นไปของธรรมชาติ ของเวทนาที่ปรากฏขึ้นมา ว่าเป็นอย่างนี้ เวทนาเมื่อทาหน้าที่ เมื่อเกิดขึ้นมาก็ทาหน้าที่ของตน ๆ เวทนาเกิดขึ้นมาทาหน้าที่ของตน ทาหน้าที่จบเขาดับไป ตามกาลัง ตามเหตุปัจจัย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ๆ
เพราะฉะนั้น การที่ใส่ใจอาการเกิดดับของเวทนาที่ปรากฏ ยิ่งใส่ใจ ยิ่งพอใจที่จะกาหนดรู้ พอใจ ตรงนี้นะ ไม่ใช่โลภะ พอใจอันนี้หมายถึงว่า ตัวฉันทะ ฉันทะคือความพอใจ ยิ่งพอใจที่พิจารณาถึงสัจธรรม เป็นสาคัญ เป็นธรรมะที่สาคัญ พอใจที่พิจารณาถึงความเป็นธรรมชาติ พอใจที่จะกาหนดรู้ ถึงความเป็นไป