Page 52 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 52
912
ตรงนี้กลายเป็นการสร้างกรรมใหม่ต่อไป ให้...ทาให้เราเกิด...สร้างกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความยินดีพอใจ หรือไม่พอใจก็ตาม ถ้าขาดการพิจารณา ไม่ประกอบด้วยปัญญา
กรรมที่ทาใหม่นี่แหละ กรรมที่สร้างจากเวทนา ที่เกิดจากผัสสะ...เวทนาขึ้นมา กรรมใหม่ที่เกิดขึ้น สร้างกรรมประเภทไหนอย่างไร อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสร้างกรรมที่เป็นกุศลกรรม หรืออกุศลกรรม ก็ ยงั เวยี นวา่ ยตายเกดิ ตอ่ ไป ยงั วนเวยี นตอ้ งชดใชส้ งิ่ นนั้ ตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ เหมอื นทเี่ ราการเวยี นวา่ ยตายเกดิ ของ เราในอดีตจนถึงปัจจุบัน บางครั้งเราก็จาไม่ได้ว่ากี่รอบ กี่ชาติ กี่ภพ กี่ชาติแล้ว จนมานั่งอยู่ตรงนี้ เราไม่ สามารถจาได้
แต่บางครั้งที่เราระลึกได้ ก็เหมือนกับว่า บางที...ไปบางแห่งรู้สึกคุ้น ๆ ไม่เคยไป แต่ก็รู้สึกว่าคุ้น จังเลย เหมือนกับว่าเราเคยมาแล้วนะ พอพูดถึงก็แว็บเข้ามา อ๋อ!ตรงนี้เคยเห็นแล้ว เหมือนเคยเห็นที่ไหน ไม่รู้ จาไม่ได้ จาไม่ได้ แต่พอเจอ อ้าว!เคยมาเคยเห็น ตรงนี้ก็เป็นอย่างหนึ่ง เหมือนกับสัญญาเก่า ๆ ลึก ๆ ฝังลึกอยู่ในจิตใจ แล้วเขาก็ผุดขึ้นมา กลายเป็นระลึกได้ เกิดระลึกได้ขึ้นมาว่า สถานที่แห่งนี้เป็นแบบนี้ อันนี้คือส่วนหนึ่ง
แต่ทีนี้ว่า การที่เราจะกาหนดเพื่อตัดวัฏสงสาร เป็นปฏิจจสมุปบาทนี่นะ ต้องอาศัยการกาหนดรู้ อาการพระไตรลักษณ์ เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงแสดง ทรงตรัสว่า สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สัพเพ ธัมมา อนัตตา อนัตตาติ สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรม ทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา ทีนี้การสังขารอารมณ์ต่าง ๆ ที่เราจะกาหนดเห็นอาการเกิดดับได้ จะเริ่มจาก จุดไหน โดยทั่วไปเราเริ่มจากอารมณ์บัญญัติ ความเป็นเรื่องราว กลุ่มก้อน ความเป็นกลุ่มก้อน ความเป็น เรื่องราว
เริ่มจากบัญญัติ ต้องอาศัยอะไรในการกาหนดรู้ที่จะดับ เราทาอย่างไร สติ ทาอย่างไรถึงจะตัดได้ ตอ้ งอาศยั อะไรบา้ ง ตอ้ งอาศยั กา ลงั ของสติ สมาธิ ปญั ญาทแี่ กก่ ลา้ ใชส้ ติ สมาธิ ปญั ญาทแี่ กก่ ลา้ พอสมควร ถึงจะตัดอารมณ์ที่เป็นวงจรของอารมณ์ ที่มีผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ต้องตัดวงจร ต้องใช้กาลังของ สติ สมาธิ ปัญญาที่แก่กล้าพอสมควร ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด คือถึงอารมณ์ที่ละเอียดมากเท่าไหร่ ก็ต้องใช้กาลังของสติ ของปัญญาที่แก่กล้ามากขึ้นเท่านั้น ถึงจะละ ดับอารมณ์ที่ละเอียดนั้นได้
ทีนี้ในเบื้องต้น ท่านจึงมีวิธีการที่เราปฏิบัตินี่นะ อารมณ์ที่เราไม่ต้องปรุงแต่ง อาศัยอารมณ์ที่เป็น ธรรมชาติจริง ๆ ก่อน ในการพัฒนาสติ สมาธิ ปัญญาให้แก่กล้าขึ้น เพราะฉะนั้น ท่านจึงให้เรากาหนดรู้ อาการทางกาย ที่บอกว่าย่อลงมานี่นะ ครูบาอาจารย์ บูรพาจารย์ผู้มีปัญญา ที่ย่อลงมาให้เราได้พิจารณาคือ อาการของรูปนามขันธ์ ๕ กายใจ
เพราะอะไร ในเบื้องต้นสิ่งที่ควรทาให้เราหลง ไม่ใช่แค่รูปเสียงภายนอก แต่รูปภายใน จุดเริ่มต้น คือ การกาหนดรู้ถึงความเป็นธรรมชาติ ของรูปนามขันข์ ๕ อันนี้ กาหนดรู้ให้เห็นชัด ถึงธรรมชาติของรูป นามอันนี้เป็นอย่างไร รูปนามในเบื้องต้นที่เราหลงว่า รูปนามที่กาลังเดินอยู่นี้ ที่คิดว่าเป็นตัวเรา ที่เข้าใจว่า
