Page 9 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 9

869
ทีนี้ เมื่อเข้าไปดูจิตที่กว้างที่โล่งที่เบาไม่มีขอบเขตแล้วรู้สึกดีอย่างไร ? จุดเด่นของจิตที่ว่างที่กว้าง ไม่มีขอบเขตคืออะไร ? คือความสบาย ความอิสระ หรือมีพลัง มีความใส มีความโปร่ง มีความโล่ง มี ความสงบ... นี่คือการพิจารณาว่าในขณะที่จิตกว้างไม่มีขอบเขตแล้วรู้สึกดีอย่างไร ถ้าบอกไม่ถูกว่ามันเป็น ยังไง แต่รู้สึกดีมาก ๆ ให้ไปดูจิตที่รู้สึกดี ความรู้สึกที่ดีนั้นเป็นอย่างไร... มีความสุข มีความสบาย มีความ นุ่มนวล มีความมั่นคง หรือมีทุกอย่างอยู่ในนั้นจึงรู้สึกว่าดีมาก ๆ ? อันนี้เราจะสังเกตได้ว่ามีทุกอย่างรวม กันแล้วดีหมดเลย ดีแล้วเป็นอย่างไร ? มีความอิ่ม มีความสบายใจ มีความหนาแน่นเกิดขึ้นมา ทาให้รูปนี้ หนาแน่น จิตรู้สึกหนักแน่นตั้งมั่นมั่นคง หรือเป็นอย่างไร
ถา้ เราพจิ ารณาอยา่ งนี้ “ลกั ษณะของจติ ทเี่ กดิ ขนึ้ ” เราสามารถบอกไดเ้ ลย เมอื่ บอกไดก้ จ็ ะพจิ ารณา ต่อไปได้ว่า จิตที่สงบแล้วสงบมากกว่าเดิม จิตที่ดีแล้วดีกว่าเดิมอีก ก็คือจิตนั้นมีกาลังมากกว่าเดิม มีพลัง มากกว่าเดิม อันนี้เราจะเห็นได้ หรือว่าถ้าจิตมีกาลังน้อยลง ก็จะรู้สึกได้ว่าจากที่(กาลัง)ดี ๆ อยู่ เริ่มจางเริ่ม บางเรมิ่ นอ้ ยลงไป เรมิ่ มวั เรมิ่ สลวั ... หรอื จติ ดมี าก ๆ สวา่ งจา้ ยงิ่ สวา่ งยงิ่ สะอาดขนึ้ ไปอกี นกี่ ค็ อื การพจิ ารณา ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง ขณะที่จิตยิ่งสว่างยิ่งจ้าขึ้น ยิ่งเข้าไปรู้ก็ยิ่งเปลี่ยน ยิ่งเปลี่ยน ยิ่งเปลี่ยน... ยิ่งสว่างจ้าขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็คือความเป็นอนิจจังของจิต สภาพจิตที่ดีแล้วมีความเปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้น
ถา้ มอี าการอยา่ งนี้ กร็ ตู้ อ่ เนอื่ งไปเรอื่ ย ๆ จนถงึ ทสี่ ดุ ทสี่ ดุ ของสภาวะอยตู่ รงไหน ? ในขณะทเี่ ราตาม รู้พิจารณาดูสภาวะไป เขาหยุดการเปลี่ยนแปลงเม่ือไหร่ก็เมื่อนั้น ทีนี้ พอสิ้นสุด อาการนี้หยุดลง สภาพจิต เปลี่ยนเป็นอย่างไร... มีความนิ่ง มีความสงบ หรือมีความเงียบ บรรยากาศรอบ ๆ ตัวมีความสงบเงียบ แต่ พอมาดูข้างในตัว ยังรู้สึกมีอาการเต้นของหัวใจ มีอาการเต้นของชีพจรเกิดขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้นทาอย่างไร ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็มาตามกาหนดรู้อาการเต้นของหัวใจต่อหรือดูอาการเกิดดับการเปลี่ยนแปลงของชีพจร ต่อไป กาหนดในลักษณะอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง
ทีนี้ ขณะที่จิตเรามีกาลังมากขึ้น มีความตั้งมั่นมากขึ้น หรือมีความใสมากขึ้น พอมีเจตนากลับมา กาหนดรู้อาการเต้นของหัวใจ อาการเกิดดับของอาการเต้นของหัวใจ “ต่างจากเดิม” อย่างไร นั่นคือเจตนา นนั่ คอื เปา้ หมายในการพจิ ารณา เราพจิ ารณาถงึ ความเปลยี่ นแปลงการเกดิ ดบั ของสภาวธรรมทเี่ กดิ ขนึ้ ทตี่ า่ ง ไป การพิจารณาตามกาหนดรู้อาการเกิดดับแบบนี้ ถามว่า เพื่ออะไร ? จริง ๆ แล้วเหมือนเมื่อกี้ที่เราดูจิต ที่ว่างที่เบาที่สงบ รู้เพื่ออะไร ? ก็เพื่อแบบเดียวกัน ก็เพื่อให้จิตพัฒนามากขึ้น เพียงแต่ว่าเปลี่ยนอารมณ์ จากการดจู ติ มาเปน็ อาการเตน้ ของหวั ใจหรอื ของชพี จร เพราะนนั่ คอื อารมณป์ จั จบุ นั ทเี่ กดิ ขนึ้ เมอื่ มอี ารมณ์ ปัจจุบันอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาก็ต้องเข้าไปกาหนดรู้แบบเดียวกัน
และที่สาคัญก็คือว่าการที่กาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้ ลองสังเกตดูว่า มีการปรุงแต่งไหม มีความ อยากไหม ? การรู้แบบนี้ทาให้จิตเราสะอาดขึ้นไหม หรือมีตัวตนมีกิเลสมากขึ้นหรือเปล่า ? นี่เป็นสิ่งโยคี พึงพิจารณา และสามารถเห็นได้ด้วยตัวเอง บอกตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าเห็นแล้วถามอย่างเดียวว่า มีกิเลสไม่มี กิเลส ? มีกิเลสหรือไม่มีกิเลส เราเองเป็นผู้ปฏิบัติ เราสามารถเห็นชัดและสามารถตอบตัวเองได้ทันที ไม่


































































































   7   8   9   10   11