Page 103 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 103

79
เราอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า แม้เราจะอยู่ห่างไกลตั้ง ๒,๖๐๐ ปีมาแล้วนับตั้งแต่ พระองค์ตรัสรู้จนถึงปัจจุบัน แต่รู้สึกว่าอยู่ใกล้ เพราะอะไร ? เพราะจิตเรา ว่าง จิตที่ว่าง ไม่มีตัวตน นั่นคือเราเห็นธรรม เห็นความเป็นอนัตตา เห็น ความไม่มีเราไม่มีเขา เห็นความว่างเปล่า ตรงนี้คือสัจธรรมอย่างหนึ่งที่ พระองค์ทรงตรัสว่า “สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ” เมื่อเราเข้าถึงความไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรเลย จิตก็จะว่างเปล่า เมื่อจิตว่างเปล่า ตรงนี้เราก็เจริญรอยตาม พระพุทธเจ้า ด้วยการทาจิตของตนให้ผ่องใส สจิตตปริโยทปนัง การชาระ จิตของตนให้ขาวรอบ
จิตที่ขาวรอบเป็นอย่างไร ? จิตที่ขาวรอบคือ จิตที่ผ่องใส ปราศจาก ตัวตน ปราศจากกิเลส ไม่มีโลภะ ไม่มีโมหะ ไม่มีโทสะปรากฏขึ้นมา มีแต่ ความผ่องใส สงบ และเบิกบานในขณะนั้น ๆ ตรงนั้นล่ะ.. จิตที่ขาวรอบ เพราะฉะนั้น เราสามารถทาจิตของเราให้ผ่องใส ให้สว่าง ให้สะอาดได้ เมื่อ เราน้อมนึกถึงพระพุทธเจ้า เราจึงรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้น โอวาทของพระพุทธเจ้า ที่บอกให้สาวกทั้งหลาย จงทา จิตของตนให้ขาวรอบ เราก็สามารถทาได้ เมื่อเราสามารถทาได้ ก็เหมือนเรา เจริญรอยตามพระอรหันต์ เราทาเหมือนพระอรหันต์ที่เขาทากัน เหมือนเรา เจริญรอยตามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเน้นการขัดเกลากิเลสให้หมดไป แม้ ชั่วขณะหนึ่ง ๆ เราก็เจริญรอยตามพระพุทธเจ้า
สภาวะเหล่านี้เกิดขึ้น บอกอะไรกับเรา ? บอกให้เรารู้ว่า ธรรมะ ของพระพุทธเจ้านั้นไม่ใช่ยากลาบากจนเกินไปที่เราจะเข้าถึงได้ ธรรมะของ พระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงแสดงนั้น เราสามารถเข้าถึงได้ถ้าเรามีปัญญา มี เจตนา มีความใส่ใจ มีความเพียรในการที่จะขัดเกลาจิตใจของเรา เราทาตาม มรรค ตามวิธีที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ทรงตรัส ทรงสอนว่า การที่จะละ อกุศลทั้งหลาย หรือละกิเลสทั้งหลาย ให้เรากาหนดรู้ตามความเป็นจริง คือ ความไม่มีตัวตน ไม่มีเราไม่มีเขา แล้วรูปนามอันนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดดับ


































































































   101   102   103   104   105