Page 105 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 105

81
สงสารเห็นใจ มีแต่ความคิดที่ดี ๆ ตรงนี้เขาเรียก “เป็นกุศลจิต” เราก็คิด แต่สิ่งที่ดี เป็นมโนกรรมที่ดี เป็นกุศลมโนกรรม เมื่อมโนกรรมดี กายกรรม ก็ดี วจีกรรมก็ดี
เพราะฉะนั้น การไม่ทาบาปทั้งปวง การที่เราจะไม่ทาบาปทางกาย วาจาใจ ถ้าเริ่มจากใจที่ดีแล้ว การทาบาปทางกายทางวาจา ก็จะน้อยลงหรือ ลดลง หรือถ้าความดีทางใจเรามีกาลัง การกระทาบาปทางกายทางวาจาก็ไม่ ต้องพูดถึง จะไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น การไม่ทาบาปทั้งปวง เราก็จะได้ปฏิบัติ ตามโอวาทของพระพุทธเจ้าว่า เราจะไม่กระทาบาปทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ เราจึงเป็นผู้อยู่ในธรรม ก็กลายเป็นว่าเราเป็นผู้ที่ปฏิบัติบูชา ปฏิบัติ ธรรมทุกวัน ทุกวัน.. อยู่กับธรรมทุกวัน ทุกวัน.. กลายเป็นปฏิบัติบูชา
มีสมัยหนึ่ง สมัยที่พระองค์ทรงอาพาธหนักก่อนที่จะปรินิพพาน พระภิกษุต่าง ๆ เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า คอยปฐมพยาบาล คอยดูแล บางรูปก็ นั่งเฝ้าพระพุทธเจ้า คอยดูพระพุทธเจ้าว่าจะเป็นอย่างไร แต่มีพระอยู่รูปหนึ่ง ปลีกตัวออกไป พระบวชใหม่ “พระสุภัททะ” ที่เป็นปริพาชก เป็นพระองค์ สุดท้ายที่ได้รับคาสอนจากพระพุทธเจ้าก่อนที่พระองค์จะปรินิพพาน ปลีกตัว ออกไปแล้วก็ปฏิบัติธรรมอยู่ ..เดินจงกรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม นั่งสมาธิ.. รีบปฏิบัติ กลัวว่าพระพุทธเจ้าจะดับขันธ์ไปก่อน
พระอานนท์ไปกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า พระสุภัททะไม่มาดูพระองค์ เลย ปลีกตัวไปปฏิบัติธรรมอยู่คนเดียว ไม่แสดงความบูชาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัส นั่นน่ะดีแล้ว อานนท์ สุภัททะกาลังปฏิบัติธรรมบูชา พระพุทธเจ้าอยู่ เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าสรรเสริญการปฏิบัติบูชา ไม่ใช่แค่ อามิสบูชา
เพราะฉะนั้น ที่เราปฏิบัติธรรมอยู่ บางทีเราไม่ได้คิดว่าการปฏิบัติ ธรรมของเราเป็นไปเพื่อบูชาพระพุทธเจ้าหรือไม่ แต่ผลของการกระทาของ เราจะเปน็ การบชู าพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยการปฏบิ ตั ิ ดว้ ยการกระทา .. เพราะอะไร ?


































































































   103   104   105   106   107