Page 222 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 222

198
เวลา เพราะเราไม่เห็นธรรม ถ้ามีความทุกข์เกิดขึ้น แล้วเราเห็นธรรม จาได้ ว่าทาแบบนี้เป็นทุกข์ แล้วเราจะเลือกทางเดินของเราได้ว่าทาอย่างไรถึงจะ พ้นจากทุกข์ ตรงนี้แหละปัญญาเกิดขึ้นมาแล้วว่าการเกิดเป็นทุกข์ เห็นความ ทุกข์แล้วแสวงหาทางดับทุกข์
การจะแสวงหาทางดับทุกข์ หาอย่างไร ? เราก็อาศัยคาสอนของ พระพุทธเจ้าอีก พระพุทธเจ้าตรัสว่าอย่างไร ? ธรรมชาติของรูปนามเป็น อย่างไร ? พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า เราทุกข์เพราะอะไร ? ทุกข์เพราะ “ความ ไม่รู้” ของเรานั่นแหละ ทุกข์เพราะไม่รู้ว่าชีวิตที่กาลังตั้งอยู่ขณะนี้คืออะไร จริง ๆ ก็คือธรรมชาติอย่างหนึ่ง จัดเป็นรูป รูปนามขันธ์ ๕ ประกอบด้วย อะไรบ้าง ? เขาเรียก “ธาตุ ๔” ดิน น้า ลม ไฟ ก็กลายเป็นขันธ์ ๕ รวมกัน เป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ พระพุทธเจ้าแยกเป็นเรื่อง ๆ แยก เป็นข้อ ๆ แยกเป็นขันธ์ ๆ
ทาไมถึงแยกเป็นขันธ์ เป็นเรื่อง เป็นคนละอย่าง ? เพราะเขาเป็น คนละอย่างกันน่ันเอง! แยกออกมาเป็น ๕ อย่าง รวมกันทาให้เป็นมนุษย์ เป็นเรา เป็นเขา เกิดขึ้น ที่รู้สึกว่าเป็นเรา เพราะอะไร ? เพราะความเข้าใจ ของเรา หรือความสาคัญของเรา สาคัญว่ารูปนามขันธ์ ๕ เป็นของเรา ความ สาคัญว่าเป็นเราเมื่อไหร่ ตรงนี้เรียกว่า “ความสาคัญผิด” คิดว่าเป็นของเรา ตรงนี้จึงเรียกว่า “มิจฉาทิฏฐิ” ความเห็นผิด เห็นรูปนามขันธ์ ๕ นี้ว่าเป็น ของเรา ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า รูปนามขันธ์ ๕ นี้ไม่ใช่ของเรา ตั้ง อยู่ในกฏของไตรลักษณ์ คือความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป บังคับบัญชาเขาไม่ได้ ไม่ได้บอกว่าเป็นของเรา
ไม่บอกว่าเป็นของเรา แล้วเป็นของใคร ? เขาก็ไม่ได้บอกว่าเป็น ของใครอีกนั่นแหละ เพราะเขาเป็นอย่างนั้น เกิดตามเหตุปัจจัย อาศัยอะไร เกิดขึ้น ? อาศัยวิบากกรรม ตั้งอยู่ได้ด้วยจิต อาหาร อากาศ แล้วก็กรรม ของเรา ที่กาลังเป็นไปอยู่ทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น จึงแยกให้รู้ว่าเป็นขันธ์ ๕


































































































   220   221   222   223   224