Page 348 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 348

324
ความพอใจลงไป แล้วก็จะทาได้สบาย ๆ อันนี้คือธรรมะที่นามาใช้ ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองดูแล้วกัน! ไปทดลองดูว่าได้ไหม ? ทาแล้วเป็นอย่างไร ? ที่จริงธรรมะ พวกนี้ต้องสอนพรุ่งนี้ แต่วันนี้เอามาสอนก่อน
พรุ่งนี้เอาเป็นว่า ถ้าใครสงสัย เรามาถามตอบปัญหากันก่อนกลับ ถามตอบปัญหาเกี่ยวกับสภาวธรรมนะ อาจารย์ตอบเฉพาะเรื่องธรรมะ เรื่อง อื่นไม่รู้ก็จะไม่ตอบ ตอบเท่าที่รู้ ตอบเรื่องธรรมะเป็นส่วนใหญ่ เพราะธรรมะ เป็นเรื่องของชีวิต ที่เรามาพัฒนาจิตเรา เพื่ออะไร ? เพื่อไม่ให้ทุกข์กับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดกับชีวิต ไม่ทุกข์กับเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่า จะเป็นขันธ์ ๕ ภายใน ขันธ์ ๕ ของเราเอง หรือขันธ์ ๕ ภายนอก คือของ คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเราหรือเขา ก็ประกอบด้วยขันธ์ ๕ ทั้งสิ้น
ทีนี้ว่า เมื่อเราไม่เข้าใจ เรามีขันธ์ ๕ ขันธ์ ไม่พอ ก็เพิ่มมาอีกหลาย ๆ ขันธ์ จนแบกเต็ม แล้วก็เหนื่อย! แค่แบก ๕ ขันธ์นี่ก็จะแย่แล้ว... นั่งไม่นาน เดี๋ยวเวทนาขันธ์ก็ปรากฏแล้ว แป๊บเดียวก็สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วุ่นวายไป หมด จะสงบสักหน่อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวเรื่องโน้นเรื่องนี้ อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เดี๋ยวคิดนั่นคิดนี่ คิดตลอด! วิญญาณขันธ์ไปอยู่ที่ไหนล่ะ ? พอสังขารขันธ์ มาเยอะ สญั ญาขนั ธม์ าเยอะ สตติ ามไมท่ นั วนุ่ วาย! ทจี่ รงิ แลว้ ถา้ วญิ ญาณขนั ธ์ ไม่ทางาน เราไม่รู้หรอกว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะวิญญาณขันธ์ทาหน้าที่รับรู้ ทุก ๆ เรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ที่เรามาฝึกนี่ เรา “เพิ่ม” อะไร ? เพิ่ม “สมาธิ” เพื่อให้รู้เท่าทัน เพิ่มสมาธิ จิตก็จะตั้งมั่น เมื่อจิตตั้งมั่น สติก็จะแข็งแรงขึ้น เมื่อสติแข็งแรง ขึ้น อะไรเกิดขึ้นมา ? “ปัญญา” ปัญญารู้อะไร ? ทาให้เราเข้าใจถึงความไม่ เที่ยงของขันธ์ต่าง ๆ เรื่องของขันธ์ ๕ ขันธ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากับเราให้เรา ได้รับรู้ เราจะ “เกี่ยวข้อง” กับขันธ์เหล่านั้นอย่างไร ? นี่แหละคือสิ่งสาคัญ
เรามาปฏิบัติธรรม มาเจริญวิปัสสนากรรมฐานในแนวสติปัฏฐานสี่ ที่จริง การเจริญวิปัสสนากรรมฐานในแนวสติปัฏฐานสี่ เป็นไปเพื่อความดับ


































































































   346   347   348   349   350