Page 406 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 406

382
ท่านพูดอยู่คาหนึ่ง ท่านบอกว่าโอกาสที่จะหลุดพ้นไม่ได้อยู่ที่ใส่ รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้าหรอก อยู่ที่การปฏิบัติของเรา ไม่ใส่รองเท้าแต่ใจเรา ก็ยังมีกิเลสอยู่ ก็ไม่ต่างอะไร พอท่านพูดอย่างนั้น ยอม! ตอนแรกมาก็ฉัน มังสวิรัติ ทั้ง ๆ ที่ที่นี่เขาทานปกตินั่นแหละ ทานแบบปัจจุบัน ทีนี้พอปฏิบัติ ไปสักพัก คนครัวก็ทาอาหารลาบาก จริง ๆ ก็บอกไม่ต้องลาบากหรอก ทาน เจเขี่ย ทาอะไรมาก็ได้ ผัดมาเราก็เขี่ยออก ทานแต่ผักอย่างเดียว... ทาน สักพักหนึ่ง ท่านก็บอกว่าคนเราจะบรรลุธรรมได้ธรรมะ ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่อง กินอย่างเดียวหรอก กินผักแล้วไม่ปฏิบัติบรรลุไหม ? เรากินเนื้ออย่างเดียว หรือ ? เปล่า เรากินอาหาร ถ้าร่างกายไม่แข็งแรง สุขภาพไม่แข็งแรง ก็ปฏิบัติ ยาก ฉะนั้น ต้องทานอาหารให้พอ
สังเกตนะ เมื่อก่อนโยคีที่นี่จะทานอาหารเยอะ ทางานเยอะ ทานเยอะ พอท่านบอกว่าต้องทานให้พอ เขาก็ลืมคิด ก็ทานเต็มที่ ไป ๆ มา ๆ ก็ติด เป็นนิสัยทานอะไรต้องเต็มที่ พออยู่มา ๆ มีอยู่ช่วงหนึ่งทานผลไม้เป็นสีที่มี สารต้านอนุมูลอิสระ ทานมะละกอจนตัวเหลืองเลย! มะละกอสุกนี่ทาน ทุกวัน ทุกวัน... จนมันออกเอฟเฟ็กต์ทางรูป มือก็เหลือง ตาก็เหลือง เหมือนคนเป็นดีซ่าน พอไปหาหมอ หมอถาม ท่านเหลืองหมด เป็นดีซ่าน หรือเปล่า บอกว่าไม่เป็น คือทานสีเหลืองมะละกอสุกทุกวัน ทุกวัน...
ไป ๆ มา ๆ มาถึงตอนนี้หมอบอก ท่าน ผักไม่ต้องทานแล้วนะ ผล ไม้ไม่ต้องทานแล้วนะ ห้ามน้าตาล ห้ามแป้ง อ้าว! แล้วจะฉันอะไร ใหม่ ๆ ก็จะรู้สึกว่าลาบากเลย ฉันยาก แต่ปัจจุบันไม่มีแป้งก็อยู่ได้ ไม่เป็นไร ก็ทาน ไขมันเยอะ ๆ หน่อย... ช่วงหนึ่งฉันมังสวิรัติ ขนาดเดินธุดงค์ยังมังสวิรัติอย่าง เดียว ตอนนี้พออยู่สบาย มังสวิรัติไม่ได้แล้ว จริง ๆ ได้นะ พอถึงเวลาก็ต้อง ดูว่าเป็นไปได้มากแค่ไหน เมื่อก่อนไม่สนใจรูปนามอันนี้ ไม่สนใจร่างกาย จะ อยู่ได้นานแค่ไหนก็ช่างเหอะ จะตายเมื่อไรก็ช่างเหอะ ตายเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น พร้อมที่จะตาย แต่ก็มีบางคนไม่พร้อมที่จะให้เราตาย อย่างน้อยก็ญาติพี่


































































































   404   405   406   407   408