Page 83 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 83

59
ความคิดที่เกิดขึ้นหรือเปล่า หรือเป็นแค่จิตดวงหนึ่งที่ทาหน้าที่รู้ความคิดที่ เกิดขึ้นอยู่ในที่ว่าง ๆ ไม่มีเราเป็นผู้ดู” ไม่มีเราเป็นผู้เสวยรสชาติของความ คิดตรงนั้น มีแต่จิตที่ทาหน้าที่รู้ความคิดที่เกิดขึ้นเท่านั้น และรู้ว่าความคิด เกิดขึ้นแล้วดับอย่างไร
ถ้ากาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้ ความคิดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อะไรก็ตาม ถ้ากาหนดรู้อย่างไม่มีตัวตน ความคิดที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่มีรสชาติ คือไม่รู้สึกหนัก ถ้าคิดถึงเรื่องที่เคยไม่สบายใจ คิดถึงแล้วก็จะตั้งอยู่ในที่ ว่าง ๆ ความไม่สบายใจไม่เกิดขึ้น หรือคิดแล้วความทุกข์ใจไม่เกิดขึ้น จาก ที่เคยคิดแล้วมีความทุกข์ แต่เมื่อแยกจิตกับความคิดออกจากกันแล้ว เมื่อ ความคิดนั้นเกิดขึ้นมาใหม่ ใจไม่ทุกข์กับความคิดหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหตุเพราะใจเป็นคนละส่วนกับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อเป็นอย่างนี้เราจะเห็นว่า นั่นเป็นการคลายอุปาทาน ไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น เพราะเห็นชัดเจนว่าเป็น คนละส่วนกัน
เมื่อความคิดเกิดขึ้นแล้วไม่ทุกข์ ก็ไม่ต้องไปกังวลว่าความคิดนั้น เกิดอีกแล้ว เพียงแต่ให้มีเจตนาพิจารณารู้ถึงการเกิดและดับของความคิด เท่านั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องที่จาเป็นต้องคิด สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ ให้จิต กว้างกว่าเรื่องที่คิด แล้วก็พิจารณาไป ด้วยเหตุด้วยผล ไม่มีความรู้สึกว่า เป็นเรา มีแต่จิตที่ทาหน้าที่รู้ความคิดหรือเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตามเหตุ ปัจจัยของเขาจริง ๆ ด้วยเหตุด้วยผลจริง ๆ นั่นคือการพิจารณาความคิด อย่างหนึ่ง
การกาหนดรู้ความคิด นอกจากเห็นความเป็นคนละส่วนระหว่าง ความรู้สึกหรือจิตกับเรื่องที่คิดแล้ว สาหรับนักปฏิบัติวิปัสสนา เมื่อมีความ คิดเกิดขึ้นต้องมีเจตนาที่จะเข้าไปกาหนดรู้ถึงอาการเกิดดับของความคิด ทันที เพราะอะไร ? เพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราปล่อยให้ความคิดตั้งอยู่นาน ก็จะเปิดโอกาสให้กิเลสเกิดขึ้นได้เสมอ ความคิดตั้งอยู่หนึ่งนาที เราเผลอ


































































































   81   82   83   84   85