Page 132 - รายงานกิจการประจำปี 2561และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561
P. 132
รายงานกิจการประจำาปี 2561 และ
126 การประชุมใหญ่สามัญประจำาปี 2561
ความเสี่ยงของสหกรณ์ เป็นไปตามที่สถาบันการเงินต่าง ๆ พิจารณา
ความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำาระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำาหนด (Credit Risk) ซึ่งสหกรณ์ฯ มีตัวเลขลูกหนี้ทั้งสมาชิก
และสหกรณ์อื่น รวมแล้วคิดเป็นร้อยละ 66.04
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากเงินรับฝาก รวมแล้วคิดเป็นร้อยละ 62.11
หากมีการถอนเงิน อาจจะเกิดจากผลตอบแทนภายนอกดีกว่า หรืออาจจะขาดความเชื่อมั่นในสหกรณ์ฯ หากมี
การถอนเงินก็อาจจะทำาให้สหกรณ์ฯ ขาดสภาพคล่องและมีความเสี่ยงได้
ความเสี่ยงด้านราคาหรือด้านตลาด (Market Risk) เป็นความเสี่ยงด้านตลาดหรือด้านราคา เกี่ยวกับการลงทุน
ในตราสารทางการเงิน รวมแล้วคิดเป็นร้อยละ 26.56 หากราคาผันผวนอาจะเกิดผลขาดทุนได้
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk) เป็นการกำาหนดกลยุทธ์ กำาหนดนโยบาย แนวทางปฏิบัติว่าจะ
ดำาเนินการอย่างไร เช่น กลยุทธ์ในการกำาหนดดอกเบี้ย หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะให้กับสมาชิก สวัสดิการต่าง ๆ
ซึ่งจะต้องกำาหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม สภาวะเศรษฐกิจและสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป
ถ้าไม่สอดคล้องก็เกิดความเสี่ยงที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ก็อาจจะเกิดความเสียหายได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและโปรดพิจารณา หากมีคำาถามก็เรียนเชิญได้
สมาชิกในที่ประชุมได้อภิปราย ดังนี้
1. สมาชิก (ไม่บอกชื่อ) สอบถามว่า เงินให้กู้แก่สมาชิกรวมถึงเงินให้กู้แก่สหกรณ์อื่นเทียบกับเงินรับฝาก
แล้วจะมีสัดส่วนค่อนข้างสูงและไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง จึงขอทราบว่ามีแนวทางการจัดการและบริหารความเสี่ยงอย่างไร
รวมถึงคณะกรรมการมีนโยบายกำาหนดสัดส่วนเงินให้กู้ต่อเงินฝากไม่เกินเท่าใดหรือไม่ ส่วนหนี้สงสัยจะสูญที่ค่อนข้าง
สูงนั้น สหกรณ์ฯ มีแนวคิดที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครดิตบูโรหรือไม่ ถ้า ณ วันนี้จะเข้าร่วมสมาชิกเครดิตบูโรจะทำาให้ดี
ขึ้นหรือไม่
2. นายมนตรี ช่วยชู ผู้สอบบัญชี ชี้แจงว่า เรื่องสัดส่วนเงินให้กู้ยืมกับเงินรับฝาก สหกรณ์ฯ มีการให้
กู้ยืมเมื่อเทียบเป็นร้อยละกับการให้บริการสมาชิกแล้วอาจจะเกินครึ่งหนึ่ง แต่ถือว่าไม่มาก ยังไม่ถือว่าน่ากลัว ซึ่งโดย
เฉลี่ยแล้วสหกรณ์ฯ ทั่วไปเงินรับฝากจะไม่มากเท่ากับสหกรณ์ฯ การบินไทย เมื่อเทียบกับเกณฑ์เฉลี่ยแล้วเรื่องเงินให้
กู้ยืมยังไม่น่าเป็นห่วง แต่น่าเป็นห่วงเรื่องการปล่อยหนี้และการติดตามทวงถามหนี้ในส่วนนั้นมากกว่า สำาหรับเรื่อง
การเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร ทางราชการต้องการให้สหกรณ์เข้าเป็นสมาชิก แต่หลายสหกรณ์ช่วงแรกต้องการเข้าเป็น
สมาชิกโดยเฉพาะ ชสอ. แต่เมื่อดูรายละเอียดแล้วคิดว่าได้ไม่คุ้มเสีย แม้แต่สหกรณ์ออมทรัพย์ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ต้องการเข้าเป็นสมาชิก แต่สมาชิกโหวตไม่ให้เข้า ซึ่งประโยชน์คือสามารถดูเครดิตของสมาชิก หากสมาชิกมีคุณสมบัติ
ครบถ้วนมีความจำาเป็น จะให้กู้หรือไม่ ส่วนผลเสีย คือ สถาบันการเงินจะทราบข้อมูลทุกอย่างของสมาชิก แต่จะเป็น
ภาระของสหกรณ์ฯ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอย่างมาก มีค่าใช้จ่าย และต้องทำารายงาน ถ้าทำา
ไม่ถูกต้องหรือไม่ทำา จะมีโทษปรับและจำาคุกด้วย เพราะฉะนั้น ขอให้สมาชิก คณะกรรมการพิจารณาผลได้กับผลเสีย
ว่าควรเข้าเป็นสมาชิกหรือไม่ ขณะนี้มีสหกรณ์เพียง 3 แห่งเท่านั้นที่เป็นสมาชิก ซึ่งความเห็นส่วนตัวแล้ว ไม่ควรเข้า
เป็นสมาชิก