Page 134 - รายงานกิจการประจำปี 2561และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561
P. 134

รายงานกิจการประจำาปี 2561 และ
               128    การประชุมใหญ่สามัญประจำาปี 2561


                    3.  นายดำารงค์  ไวยคณี  สมาชิก  สอบถามว่า  หนี้สงสัยจะสูญ ในความรู้สึกของสมาชิก คือ เกิดจาก
            การปล่อยกู้ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้ที่ปล่อยกู้ ควรจะต้องรับผิดในเรื่องนี้หรือไม่

            หากปล่อยกู้โดยไม่ต้องรับผิด หนี้สงสัยจะสูญที่เกิดขึ้น จะเกิดจากการปล่อยกู้โดยที่ไม่ต้องรับผิด  ซึ่งหลักในการปล่อยกู้

            คือ  1. ต้องพิจารณาความสามารถในการที่จะได้รับชำาระหนี้ ซึ่งได้มีการพิจารณาหรือไม่  2.  การปล่อยกู้แต่ละครั้ง
            เมื่อสมาชิกแสดงความประสงค์ขอกู้แล้ว ได้มีการตรวจสอบวัตถุประสงค์ที่ขอกู้หรือไม่  ดังนั้น  จึงขอถามว่า ได้ปฏิบัติ
            ตามระเบียบหลักการให้กู้หรือไม่ และถ้าเกิดไม่ปฏิบัติตาม คนให้กู้ต้องรับผิดอะไรหรือไม่


                    4.  นายพิทยา ทิพยโสตถิ  ประธานกรรมการ  ชี้แจงว่า  เรื่องการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิก  กรรมการ
            ตระหนักดีว่ากรอบหรือระเบียบวิธีปฏิบัติต้องทำาอย่างไร แต่อาจจะมีนอกกรอบบ้าง เมื่อตรวจพบก็จะท้วงติงและตักเตือน

            ให้กลับเข้าสู่สภาพที่ถูกต้อง แต่ปัจจุบันนี้ก่อนที่จะให้สินเชื่อได้มีระเบียบรองรับอยู่ทุกสัญญาทุกเงื่อนไขของการให้กู้ ซึ่ง

            กรรมการก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ  ส่วนเรื่องความสามารถในการชำาระหนี้ ถ้าไม่มีความสามารถในการชำาระหนี้ มั่นใจ
            ได้ว่าสหกรณ์ไม่ปล่อยกู้  ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องหนี้ที่เป็นหนี้เสียมากขึ้นนั้น เป็นเพราะว่ากรรมการเห็นว่าสมาชิก
            มีความเดือนร้อน จึงจัดทำาโครงการในการกู้เพิ่มขึ้น เมื่อมีหลายสัญญา เงินคงเหลือในซองก็น้อยลงเหลือประมาณ

            10-15% เมื่อเกิดการกระทบกระเทือนกับผู้กู้ โดยผู้คำ้าหนีไปคนเดียวเท่านั้น ก็เกิดปัญหาทันที ถ้าผู้กู้หนี คนคำ้า

            ก็รับภาระ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะโอนหนี้ให้กู้คำ้าทันที การตั้งสำารองหนี้ก็ไม่มี แต่ปัจจุบันหลังจากที่กรรมการคณะนี้เข้ามา
            ดำาเนินการแล้ว ก็มองเห็นสภาพว่าสิ่งที่ทำามาไม่ถูกต้อง จึงดำาเนินการใหม่ คือ ถ้าสมาชิกท่านใดที่กู้เมื่อหนีหนี้
            จะต้องถูกฟ้องทั้งผู้กู้และผู้คำ้าตามเงื่อนไขของสัญญา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องติดตามเรียกเก็บหนี้จากผู้กู้ด้วย

            โดยสืบทรัพย์แล้วนำาทรัพย์นั้นมาขายทอดตลาดเพื่อนำาเงินมาใช้หนี้ หากสืบทรัพย์แล้วไม่มีทรัพย์ ก็ต้องฟ้องล้มละลาย

            หนี้ส่วนที่เหลือก็โอนหนี้ไปให้ผู้คำ้า จะเห็นว่า คณะกรรมการที่มาทำางานกันตรงนี้มีเวลาทำางานเพียง 3 เดือน
            แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าการดูแล การกระทำาของกรรมการชุดนี้และชุดที่ 43 ภายใต้การกำากับดูแลของผม จะทำาให้
            สุดความสามารถและให้เกิดความยุติธรรม


                    5.  นายดำารงค์  ไวยคณี  สมาชิก  สิ่งที่ถามก็คือผู้อนุมัติให้กู้ ต้องรับผิดในเรื่องนี้หรือไม่  เนื่องจากผมเคย

            ทำางานกับสถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินทุกแห่งจะกำาหนดระดับความรับผิดชอบหากเกิดหนี้เสียขึ้น ซึ่งโทษคือออก
            แต่กรณีนี้ ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ  จากที่ได้ดูข้อมูลแล้ว อาจจะมีมากกว่า 247 ล้านบาท หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ปีหน้า

            อาจไม่มีเงินปันผล เพราะฉะนั้น จึงต้องถามว่า การปล่อยกู้ที่ไม่มีการวิเคราะห์ จะต้องรับผิดชอบอย่างไร และจะทำา
            อย่างไรต่อไป


                    6.  นายพิทยา ทิพยโสตถิ  ประธานกรรมการ  ชี้แจงว่า  ขึ้นอยู่กับสมาชิกเป็นผู้กำาหนด ถ้าเกิดเป็น
            หนี้เสีย ก็ต้องขอตัดหนี้สูญในที่ประชุมใหญ่ เมื่อตัดหนี้สูญไปแล้วก็ต้องกลับมาตรวจสอบว่าการอนุมัติถูกต้องหรือ

            ไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้อง จะให้ทำาอย่างไรก็ต้องกำาหนดเป็นมติที่ประชุม

                    7.  เรืออากาศโท ฉัตรชัย  ดิษสน  สมาชิก  เรื่องหนี้ที่จะสูญ ในสมัยที่ผมเป็นผู้ตรวจสอบกิจการก็เคย

            ดำาเนินการเรื่องนี้แล้ว เพราะมีการกู้แบบซองติดลบ แต่จะไม่ขอพูดในรายละเอียด แต่จะเสนอว่า สิ่งเหล่านี้เป็นภัย
            ส่วนหนึ่งสำาหรับสหกรณ์ที่จะส่งผลต่อเงินปันผล  ดังนั้น จึงขอให้ตั้งกรรมการสอบโดยบุคคลที่เชื่อถือได้ เพื่อเข้าไป

            ตรวจสอบว่า หนี้ที่จะสูญ เกิดจากอะไร เพราะตามข้อบังคับสหกรณ์ฯ ข้อ 60 กำาหนดว่า “ถ้ากรรมการดำาเนินการ
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139