Page 3 - ตัวอย่างการใช้ตรรกะในการแก้ปัญหา
P. 3

การแก้ปัญหา หมายถึง การท างานที่ยังไม่รู้วิธีการที่ได้มาซึ่งค าตอบในทันที ซึ่งการหาค าตอบต้องน า

               ความรู้ที่มีอยู่ไปเข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหา เพื่อให้ได้มาซึ่งค าตอบ
                       ส าหรับการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ หมายถึง การใช้ประสบการณืในการเลือกทางเลือกในการจัดการกบ

               ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบและมีความเหมาะสม

                       การคิดแก้ปัญหา หมายถึง ความสามารถทางสมองในการขจัดสภาวะความไม่สมดุลที่เกิดขึ้น โดยพยายาม
               ปรับตัวเองและสิ่งแวดล้อมให้ผสมกลมกลืนกลับเข้าสู่สภาวะสมดุลหรือสภาวะที่เราคาดหวัง

                       ค าว่าตรรกะ หมายถึง การมีเหตุผล
                   ดังนั้นการคิดและการแก้ปัญหาอย่างมีตรรกะจึงหมายถึงการคิดและการแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล

                จากเว็บไซต์ gotoknow.org ได้ให้ล าดับขั้นตอนของกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผลไว้ ดังนี้

                   1.  การระบุปัญหาที่แท้จริง
                   2.  การระบุสาเหตุที่ท าให้เกิดปัญหา ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง

                   3.  การเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล
                   4.  การประเมินสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุด

                   5.  การระบุแนวทางแก้ไข

                   6.  ตรวจสอบและประเมินผล
               ตรรกะเป็นเครื่องมือส าหรับพัฒนาการคิด การตัดสินใจ และการให้ข้อสรุปอย่างเป็นเหตุเป็นผล โดยการคิดแบบมี

               ตรรกะ คือการคิดหาข้อสรุปที่ปราศจากอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัว กับชุดข้อมูลพื้นฐานที่มีอยู่และจากเว็บไซต์

               gotoknow.org ได้แนะน าเทคนิคส าหรับการคิดอย่างมีเหตุผลไว้ ดังนี้
                   1.  การเปิดกว้าง คือการยอมรับข้อมูลใหม่ ๆ เสมอหรือจะต้องทันเหตุการณ์ ทันสมัย ทันโลกที่เป็นปัจจุบัน

                   2.  กล้าเปลี่ยนจุดยืน ก่อนที่จะเปลี่ยนจุดยืนได้ จะต้องมีการยอมรับเสียก่อน และเปลี่ยนแปลงความคิดของ
                       ตนเองให้คล้อยตามกับข้อมูลใหม่ ๆ ที่ได้รับมา

                   3.  การหาเหตุผลและการให้เหตุผล จะน าไปสู่การสรุปข้อมูล โดยสรุปจากการวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล

                   4.  มุมมอง จะต้องพิจารณาในทุก ๆ มุมมองของปัญหา ไม่ใช่เพียงแต่พิจารณาเฉพาะมุมมองของตนเท่านั้น
                   5.  การวางตัวเป็นกลาง ต้องระวังความคิดไม่ให้ถูกชักน าให้เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง

                   6.  การตั้งค าถาม ในบางปัญหาผู้แก้ปัญหาอาจจะไม่ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของปัญหา ท าให้ผู้
                       แก้ปัญหาอาจจะแก้ปัญหาไม่ได้ หรืออาจจะแก้ปัญหาได้แต่ไม่ตรงตามความต้องการของปัญหา จึงควรที่

                       จะตั้งค าถามเพิ่มเติม หากผู้แก้ปัญหาไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้น ๆ

                   ตรรกะแบ่งออกเป็นหลากหลายรูปแบบ ทั้งตรรกะมีรูปแบบ ตรรกะไม่มีรูปแบบ เครื่องหมายทางตรรกะ และ
               ตรรกะเชิงคณิตศาสตร์ เมื่อเห็นค าว่า “ตรรกะ” แล้ว อาจจะคุ้นเคยมาบ้างแล้วในรายวิชาคณิตศาสตร์ จากการ








                   บทที่ 2 ขั้นตอนการคิดและการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ                                         หน้า 3
   1   2   3   4   5   6   7   8