Page 6 - ตัวอย่างการใช้ตรรกะในการแก้ปัญหา
P. 6
ตัวอย่างการใช้เครื่องหมาย implies เช่น
(2<2) →(2=0)
(2<2)ซึ่งมีผลเป็นเท็จ → (2=0)ซึ่งมีผลเป็นเท็จ
ผลของตัวอย่างประพจน์นี้มีค่าความจริงเป็น จริง เพราะเครื่องหมาย implies จะเป็นเท็จเมื่อค่าหน้าเครื่องหมาย
เป็นจริงและค่าหลังเครื่องหมายเป็นเท็จเท่านั้น
เครื่องหมาย ↔ (equivalence)
เครื่องหมาย ↔ หรืออ่านว่า “equivalence” หรืออ่านว่า “ก็ต่อเมื่อ” จะมีผลเป็นจริงเมื่อค่าหน้า
เครื่องหมายและค่าหลังเครื่องหมายมีค่าความจริงเหมือนกัน และจะมีผลเป็นเท็จเมื่อค่าหน้าเครื่องหมายและหลัง
เครื่องหมายมีค่าความจริงต่างกัน ดังตาราง
ค่าความจริงของเครื่องหมาย ↔หรืออ่านว่า “equivalence” หรืออ่านว่า “ก็ต่อเมื่อ”
ค่าที่ 1 ค่าที่ 2 ค่าความจริง (ผลลัพธ์)
จริง จริง จริง
จริง เท็จ เท็จ
เท็จ จริง เท็จ
เท็จ เท็จ จริง
ตัวอย่างการใช้เครื่องหมาย equivalence เช่น
(2<2) ↔(2=0)
(2<2)ซึ่งมีผลเป็นเท็จ ↔ (2=0)ซึ่งมีผลเป็นเท็จ
ท าให้ตัวอย่าง (2<2) ↔(2=0) มีค่าความจริงเป็นจริงเพราะค่าหน้าเครื่องหมายและค่าหลังเครื่องหมายมีค่าความ
จริงเป็นเท็จเหมือนกัน แต่ถ้าเปลี่ยนข้อความเป็น
(2<2) ↔(2>0)
(2<2)ซึ่งมีผลเป็นเท็จ ↔ (2>0)ซึ่งมีผลเป็นจริง
ค่าความจริงของ (2<2) ↔(2>0)จะเป็นเท็จ เพราะค่าหน้าเครื่องหมายเป็นเท็จ แต่ค่าหลังเครื่องหมายเป็นจริง
บทที่ 2 ขั้นตอนการคิดและการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ หน้า 6