Page 40 - จราจร
P. 40

๓๓




                                     ในกรณีเจาพนักงานจราจรที่ออกใบสั่งไมพบตัวผูขับขี่ ใหติด ผูก หรือแสดงใบสั่ง
                 ไวที่รถที่ผูขับขี่สามารถเห็นไดงาย หากไมสามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไวที่รถไดไมวาดวยเหตุใด

                 ใหสงใบสั่งพรอมดวยพยานหลักฐานโดยทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลําเนาของเจาของรถ
                 หรือผูครอบครองรถ เพื่อใหชําระคาปรับภายในระยะเวลาที่กําหนดในใบสั่งนั้น ทั้งนี้ ตามระเบียบ

                 ที่ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติกําหนด
                                     ใหนําความในวรรคสองมาใชบังคับกับกรณีที่เจาพนักงานจราจรพบการกระทํา

                 ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใชทาง แตไมอาจทราบ
                 ตัวผูขับขี่ดวย โดยอนุโลม

                                     เกณฑการกําหนดจํานวนคาปรับตามที่เปรียบเทียบและแบบของใบสั่งตาม
                 วรรคหนึ่ง ใหเปนไปตามที่ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติประกาศกําหนด”

                                     มาตรา ๑๑  ใหเพิ่มความตอไปนี้เปนมาตรา ๑๔๐/๑ มาตรา ๑๔๐/๒ และมาตรา
                 ๑๔๐/๓ แหงพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒

                                     “มาตรา ๑๔๐/๑ เมื่อเจาพนักงานจราจรไดติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไวที่รถหรือ

                 สงใบสั่งไปรษณียตามมาตรา ๑๔๐ วรรคสองและวรรคสาม แลว ใหถือวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถ
                 ไดรับใบสั่งเมื่อพนกําหนดสิบหาวันนับแตวันที่ไดติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไวที่รถหรือสงใบสั่งทาง
                 ไปรษณียดังกลาว เวนแตจะมีการพิสูจนไดวาไมมีการไดรับหรือไดรับหลังจากวันนั้น เมื่อเจาของรถ

                 หรือผูครอบครองรถไดรับใบสั่งดังกลาวแลว ใหสันนิษฐานวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถนั้นเปน

                 ผูกระทําความผิดตามที่ระบุในใบสั่ง เวนแตเจาของรถหรือผูครอบครองรถจะไดแจงตอพนักงานสอบสวน
                 ภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับใบสั่งวาผูอื่นเปนผูขับขี่และผูนั้นยอมรับวาตนเปนผูขับขี่ หรือในกรณี

                 ที่ไมมีผูใดยอมรับวาเปนผูขับขี่ เจาของรถหรือผูครอบครองรถซึ่งไมใชนิติบุคคลจะตองแสดงหลักฐาน
                 ใหพนักงานสอบสวนเชื่อไดวาตนเองมิไดเปนผูขับขี่นั้น

                                     มาตรา ๑๔๐/๒  ในกรณีที่เจาพนักงานจราจรไดวากลาวตักเตือนหรือออกใบสั่ง
                 ใหผูขับขี่ผูใดตามมาตรา ๑๔๐ แลว หากเจาพนักงานจราจรเห็นวาผูขับขี่ผูนั้นอยูในสภาพที่หากให

                 ขับรถตอไปอาจเปนอันตรายตอชีวิต รางกาย หรือทรัพยสินของตนเองหรือผูอื่น ใหเจาพนักงานจราจร
                 มีอํานาจยึดใบอนุญาตขับขี่ของผูขับขี่ดังกลาว หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ดวยวิธีการทางขอมูล

                 อิเล็กทรอนิกสหรือระงับการใชรถเปนการชั่วคราวเพื่อมิใหผูนั้นขับรถ และใหเจาพนักงานจราจรคืน
                 ใบอนุญาตขับขี่หรือยกเลิกการบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ดวยวิธีการทางขอมูลอิเล็กทรอนิกส

                 หรือยอมใหผูขับขี่ขับรถได เมื่อผูขับขี่นั้นอยูในสภาพที่สามารถขับรถตอไปไดหรือเมื่อเจาพนักงานจราจร
                 แนใจวาผูขับขี่จะไมขับรถในขณะที่อยูในสภาพดังกลาว ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ

                 และอธิบดีกรมการขนสงทางบกรวมกันกําหนด
                                     มาตรา ๑๔๐/๓  ในกรณีที่เจาพนักงานจราจรพบวาผูขับขี่ผูใดเปนผูขาดคุณสมบัติ

                 หรือมีลักษณะตองหามในการไดรับใบอนุญาตขับขี่ ใหเจาพนักงานจราจรมีอํานาจยึดใบอนุญาตขับขี่
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45