Page 140 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 140
แรกก็บอกว่าไม่เป็นไรๆ แต่เวลานี้มันเริ่มจะเป็นเล็น จะไล่เจ้าของบ้าน
ออกเสียแล้ว นี่เป็นเพราะว่าเราเห็นว่าเล็กว่าน้อย มันกลายเป็นเรื่องใหญ่
ขึ้นมา มันก�าลังจะเหลือที่จะแก้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นในทุกเรื่อง
อย่าเห็นว่าเล็กว่าน้อย โดยเฉพาะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่อยู่
ในบังคับบัญชาของเรา เช่นเป็นเจ้าอาวาส ปัญหาของพระลูกวัด
เป็นผู้บังคับบัญชา ปัญหาของผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา จะต้องเห็นว่า
เป็นปัญหาใหญ่เสมอด้วยปัญหาของเรา หรือใหญ่กว่าปัญหาของเรา
แล้วเราก็จะต้องปฏิบัติในหลักที่เรียกว่าขายความสุขของตัวเอง
ซื้อความสุขของพระเณรในวัด ซื้อความทุกข์ของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
ไม่ใช่ว่าขายความทุกข์ของตัวเองให้กับลูกน้อง แล้วซื้อเอาความสุข
ของลูกน้องมาใส่ตน ต้องอย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ปัญหาต่างๆ
อุปสรรคข้อขัดข้องต่างๆ มันมีด้วยกันทั้งนั้น แต่รีบแก้ไขเสีย เรียกว่า
ตัดไฟแต่ต้นลม ถ้าขืนคิดว่าไม่เป็นไรๆ นิดๆ หน่อยๆ พอมันนานเข้า
จะยุ่ง เหมือนกับต้นไม้ที่ขึ้นบนเจดีย์ โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ
แก้ไขเสียแต่ต้นตอนมันยังเล็กๆ ถ้าคิดว่าไม่เป็นไรๆ พอแหงนไปดูอีกที
อ้าว ต้นมันใหญ่เสียแล้วเกิดปัญหา แล้วอีกนัยยะหนึ่ง อปฺปมตฺตสฺส
แปลว่าอย่าเห็นแก่เล็กแก่น้อย ถ้าเห็นแก่เล็กแก่น้อยยศศักดิ์เสื่อม
บางคนล้มละลายหายนะมาเยอะต่อเยอะแล้ว มามากต่อมากแล้ว
เพราะเป็นคนเห็นแก่เล็กแก่น้อย บัณฑิตกล่าวว่าความเห็นแก่เล็ก
แก่น้อยนั้นเป็นมารดาของทุจริตทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นคอรัปชั่น
ฉ้อราษฎร์บังหลวง ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากความเป็นผู้เห็นแก่เล็กแก่
น้อยทั้งหมด
ผู้ที่หวังความเจริญด้วยเกียรติยศ อิสริยยศ บริวารยศควรที่จะ
ได้พิจารณาหลักธรรมทั้ง ๗ ประการนี้ แล้วก็ปฏิบัติไปตามขบวนการ
ของมัน ยศก็จะถึงไม่เจริญขึ้น แต่ก็ไม่เสื่อม แต่ถ้าหากว่าละทิ้งคุณธรรม
114 จรัมบุญ