Page 57 - หนังสืออนุทิน พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ป.ธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี, ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา.
P. 57
เดิมสงวนลิขสิทธิ์ค�าว่า “อธิบดีสงฆ์” ใช้ส�าหรับวัดมหาธาตุฯ
ท่าพระจันทร์วัดเดียว ต้องเป็นวัดที่เป็นแหล่งความรู้คือเป็นวิทยาลัยด้วย
พอดีวัดมหาธาตุฯ ไม่ได้ไปจดลิขสิทธิ์ไว้ จะมาโมเมว่าเป็นของวัดตนเอง
วัดเดียวก็ไม่ได้ วัดพระเชตุพนฯ ในฐานะเป็นมหาวิทยาลัยแหล่งความรู้
สรรพวิทยาต่างๆ มีจารึก มีความทรงจ�าของโลก มีหลักฐานว่าเจดีย์
พระพนรัตน์นั้น ท่านใช้ค�าว่า “อธิบดี” เช่นกัน เรียกว่าใช้มาตั้งแต่อดีต
อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ องค์ที่ ๑ แล้ว ดังนั้น จึงใช้ค�าว่า อธิบดีสงฆ์
วัดพระเชตุพนฯ ได้เช่นกัน มิใช่เป็นการประดิษฐ์ถ้อยค�าแข่งขันกัน
และมีหลักฐานประกอบพอฟังได้ในราชการ
อธิบดีสงฆ์ก็คือเจ้าอาวาสนั่นเอง พูดอยู่ได้ตั้งนาน ทุกวัด
ล้วนมีเจ้าอาวาสทั้งนั้น ที่ไม่มีเพราะยังไม่แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
หรือองค์ประกอบยังไม่ครบถ้วน แต่ท่านมุ่งหมายเอาวัดใหญ่ๆ ชนิดเอกอุ
ที่เป็นแหล่งสรรพวิทยาการต่างๆ จึงใช้ค�าว่า อธิบดีสงฆ์ได้
เข้าเรื่องสักที ขอเกริ่นน�าถึงท่านพระอุบาฬีฯ (ปาน) (๒๓๗๑ -
๒๔๔๗ อายุ ๗๗ ปี) เดิมสังกัดอยู่วัดราชบุรณะฯ เป็นเปรียญ
ในรัชกาลที่ ๓ ตามประวัติจะเขียนว่า “พระเทพมุนี (ปาน) เป็นเปรียญ
อยู่วัดราชบุรณะฯ” สอบได้ประโยค ๓ (๒๓๘๘) อุปสมบทเมื่อปี ๒๓๙๒
มีสมเด็จพระสังฆราช นาค วัดราชบุรณะฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านมี
สมณศักดิ์ตามล�าดับ และเคยไปอยู่วัดมหรรณพาราม บั้นปลายไปเป็น
อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ ตอนมรณภาพนั้น “มีเงินแค่หกสลึงเท่านั้น”
เห็นไหมว่า วัดราชบุรณะฯ จะเขียนเป็น วัดราชบูรณะฯ ก็ได้
เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน มีสมเด็จพระสังฆราชมิใช่พระองค์เดียว
เพราะยังมีสมเด็จพระสังฆราช มี อีกพระองค์หนึ่ง และเคยเป็น
แหล่งสรรพวิทยาการมาก่อน ขนาดสุนทรภู่ยังเคยมาอยู่จ�าพรรษา
อนุทินประจ�ำวัน 55