Page 43 - สุขศึกษาทช21002.indd
P. 43

34



                                       1.2. การเปลี่ยนแปลงทางรางกายของเพศชาย เด็กชายจะเริ่มเขาสูวัยรุน

                    เมื่ออายุประมาณ 13-15 ป ตอมใตสมองจะผลิตฮอรโมนที่ไปกระตุนใหรางกายเจริญเติบโต

                    และกระตุนใหอัณฑะผลิตเซลลสืบพันธุและฮอรโมน เพศชายมีการเปลี่ยนแปลงของรางกาย
                    ที่เห็นไดชัดโดยเฉพาะความสูงและน้ําหนักตัวที่เพิ่มขึ้น แขนขายาวเกงกางไหลกวางออก


                    กระดูกและกลามเนื้อแข็งแรงขึ้นและมีกําลังมากขึ้น เสียงแตก นมแตกพาน มีหนวดเครา มีขน
                    ขึ้นที่หนาแขง รักแร และบริเวณอวัยวะเพศ บางคนอาจมีสิวขึ้นบริเวณใบหนา หนาอก หรือ

                    หลังอวัยวะเพศโตขึ้นและแข็งตัวเมื่อมีความรูสึกทางเพศหรือถูกสัมผัส และมีการหลั่งน้ําอสุจิ

                    หรือน้ํากามออกมาในขณะหลับ (ฝนเปยก) ซึ่งเปนอาการที่บงบอกวาไดบรรลุวุฒิภาวะทางเพศ

                    แลว และยังหมายถึงการมีความสามารถที่จะทําใหเพศหญิงเกิดการตั้งครรภไดอีก

                                       1.3. ตอมไรทอที่มีอิทธิพลตอการควบคุมพัฒนาการทางเพศ  ตอมไรทอ

                    ที่มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุนที่สําคัญ  ไดแก  ตอมใตสมองหรือ

                    ตอมพิทูอิทารี ตอมเพศ ตอมไทรอยด และตอมหมวกไต ซึ่งตอมไรทอแตละตอมสงผลตอการ

                    เจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุน

                                       1.4. อารมณทางเพศหรือความตองการทางเพศ หมายถึง ความรูสึกของ

                    บุคคลที่มีผลมาจากสิ่งเราภายในหรือสิ่งเราภายนอก ที่เปนปจจัยที่มากระตุนใหเกิดความรูสึก

                    ทางเพศขึ้น โดยมีระดับความแตกตางมากนอยตางกัน  ขึ้นอยูกับความสามารถในการควบคุม

                    อารมณและพื้นฐานทางดานวุฒิภาวะของแตละบุคคล

                                            แนวทางการปฏิบัติเพื่อระงับอารมณทางเพศ หมายถึง ความ

                    พยายามในการที่จะหลีกเลี่ยงตอสิ่งเราภายนอกที่มากระตุนใหอารมณทางเพศมีเพิ่มมากขึ้นโดย

                    มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้

                                            1.  หลีกเลี่ยงการดูหรืออานขอความจากสื่อตาง ๆ ที่มีภาพหรือ

                    ขอความที่สามารถยั่วยุใหเกิดอารมณทางเพศ เชน การดูหนังสือ หรือภาพยนตร หรือสื่อ

                    อินเทอรเน็ตที่มีภาพหรือขอความที่แสดงออกทางเพศ ซึ่งเปนการยั่วยุใหเกิดอารมณทางเพศ

                                            2.  หลีกเลี่ยงการปฏิบัติหรือการทําตัวใหวางหรือปลอยตัวใหมีความ
                    สบายเกินไป เชน การนอนเลน ๆ โดยไมหลับ การนั่งฝนกลางวันหรือนั่งจิตนาการที่เกี่ยวของกับ

                    เรื่องเพศ การอยูในสภาพของบรรยากาศที่มีแสงสีเสียงที่กอหรือปลุกเราใหเกิดอารมณ

                    ทางเพศ







                                                                   สุขศึกษา พลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  :  ทช21002  43
                                                                                         ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48