Page 66 - สุขศึกษาทช21002.indd
P. 66
57
3. โรคไขหวัดนก
เดิมเชื้อไขหวัดนกเปนเชื้อไวรัสโดยธรรมชาติจะติดตอในนกเทานั้น โดยเฉพาะ
นกปา นกเปดน้ํา จะเปนพาหะของโรค เชื้อจะอยูในลําไสนก โดยที่ตัวนกไมมีอาการ แตเมื่อนก
เหลานี้อพยพไปตามแหลงตาง ๆ ทั่วโลก ก็จะนําเชื้อนั้นไปดวย เมื่อสัตวอื่น เชน ไก เปด หมู
หรือสัตวเลี้ยงอื่น ๆ ไดรับเชื้อไขหวัดนกก็จะเกิดอาการ 2 แบบ คือ
1. หากไดรับเชื้อชนิดไมรุนแรงสัตวเลี้ยงนั้นอาจจะมีอาการไมมากและหายไดเอง
2. หากเชื้อที่ไดรับมีอาการรุนแรงมากก็จะทําใหสัตวเลี้ยงตายไดภายใน 2 วัน
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเอ็ชไฟวเอ็นวัน (H5N1) พบในนก ซึ่งเปนแหลงเชื้อโรคใน
ธรรมชาติ โรคอาจแพรมายังสัตวปกตาง ๆ ได เชน ไกที่เลี้ยงอยูในฟารม เลี้ยงตามบานและไก
ชน รวมทั้งเปดไลทุงดวย
อาการ
ผูปวยมีอาการคลายไขหวัดใหญ ไขสูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกลามเนื้อ
ออนเพลีย เจ็บคอ ไอ ผูปวยเด็กเล็ก ผูสูงอายุ หรือผูที่มีโรคประจําตัว หากมีภูมิคุมกันไมดี อาจ
มีอาการรุนแรงได โดยจะมีอาการหอบ หายใจลําบาก เนื่องจากปอดอักเสบรุนแรง
การติดตอ
โดยการสัมผัสซากสัตวปกที่ปวยหรือตาย เชื้อที่อยูในน้ํามูก น้ําลาย และมูลสัตวปวย
อาจติดมากับมือและเขาสูรางกายทางเยื่อบุของจมูกและตา ผูที่เสี่ยงตอโรคไขหวัดนก ไดแก ผูที่
ทํางานในฟารมสัตวปก ผูที่ฆาหรือชําแหละสัตวปก ผูเลี้ยงสัตวปกในพื้นที่ที่เกิดโรคไขหวัดนก
ระบาด
การปองกัน
1. รับประทานอาหารประเภทไกและไขที่ปรุงสุกเทานั้น โดยเฉพาะชวงที่มีการ
ระบาดของโรค
2. ควรเลือกซื้อไกสดที่ไมมีลักษณะบงชี้วาอาจตายดวยโรคติดเชื้อ
3. ไมเลนคลุกคลีหรือสัมผัสตัวสัตว น้ํามูก น้ําลาย มูลของไกและสัตวปก
4. อาบน้ําใหสะอาดและเปลี่ยนเสื้อผาทุกครั้งหลังสัมผัสหรือคลุกคลีกับสัตวปก
ทุกชนิด
5. หามนําสัตวปกที่ปวยหรือตายมารับประทาน หรือปรุงเปนอาหารอยางเด็ดขาด
66 สุขศึกษา พลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : ทช21002
ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์

