Page 86 - cover-biology-boontieam new28-8 i_coateduv
P. 86

ตามกฎหมายได้เลย  ถามเจ้าหน้าที่ศุลกากรรุ่นพี่ ๆ และประชาชนคนแถวนั้น                                 บางครั้งผู้ลักลอบไหวตัวหรือพบเห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปดักซุ่มรออยู่  ก็ไม่กล้าที่จะ

            ได้ความว่าเป็นอย่างนี้ทุกวัน  การกระทำการลักลอบหนีศุลกากรเป็นส่วนหนึ่งของ                           กระทำการลักลอบขนของหนีภาษี  บางทีเฝ้าซุ่มอยู่ในป่าสวนยางทั้งวันก็จับกุม
            วิถีชีวิตของชาวบ้านในแถบนั้น  การไล่จับของเจ้าหน้าที่กับผู้ลักลอบเป็นเหมือน                         อะไรไม่ได้  เพราะผู้ลักลอบรู้ตัวและไปใช้เส้นทางอื่น  ขณะซุ่มดักอยู่ในป่า
            เกมกีฬา  จับได้ก็จับไป  หนีได้ก็หนีไป  ผู้ลักลอบหวงแหนของที่เขาขนหรือนำพา                           ปัญหาที่พบคือ  เจ้าหน้าที่มักจะถูกยุงหรือแมลงอื่น ๆ กัดต่อยทำให้เกิดผื่นคัน
            มาเท่าชีวิต  เพราะเขาต้องรับผิดชอบต่อของนั้น  จึงหนีและหลบหลีก  รวมทั้ง                             อากาศก็ค่อนข้างอบอ้าวเกิดความเหนียวเหนอะหนะ  ไม่สบายตัวแต่ก็ต้องอดทน

            ขัดขวางการจับกุมทุกครั้ง  จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน                     และเป็นที่น่าสังเกตว่าขณะซุ่มอยู่ในป่าสวนยาง  บางคนจะถูกยุงหรือแมลงกัด
            แค่ทำงานเพียงวันแรกก็เกิดความรู้สึกไม่อยากจะทำงานในลักษณะแบบนี้  เพราะ                              มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป  แต่ตัวผมรู้สึกว่ายุงชอบมารุมกัดมากกว่าคนอื่น ๆ
            ดูเหมือนกับว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีศักดิ์ศรี  ไม่มีความหมาย  เพราะแทบจะทำอะไรไม่ได้                      ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร  เข้าป่าแต่ละครั้งจึงถูกยุงกัดมากกว่าคนอื่น ๆ  โชคดีที่ไม่เป็น
            เลย  ไม่มีใครยำเกรงในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่  เพราะมีการยื้อแย่งของกลาง                              ไข้ป่าหรือมาลาเรียไปเสียก่อน

            และจะหลบหลีกหรือขัดขวางการจับกุมอย่างไรก็ได้  วิ่งหนีหายพ้นไปสักพัก
            ก็กลับมาทำการลักลอบขนของหนีภาษีครั้งใหม่ต่อไปไม่รู้จบ  เจ้าหน้าที่ศุลกากร                                  การทำงานต้องยืดหยุ่นตามสถานการณ์
            ยึดของกลางได้เพียงบางส่วน  บรรดากองทัพมดก็แยกย้ายหลบหนีไป  วันต่อไป                                        นอกจากการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ตามเวร
            ก็กลับมาเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับเจ้าหน้าที่อีก  เป็นเช่นนี้มาช้านาน  จนกลายเป็น                        ที่กำหนดแล้ว  หน่วยร่วมศุลกากรปาดังเบซาร์ยังมีอิสระในการทำงานด้านการ

            เรื่องปกติธรรมดา  โชคดีที่ไม่มีอะไรรุนแรงจนถึงขั้นทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะเข้าทำการ                     สืบสวนปราบปรามในเขตพื้นที่รับผิดชอบด้วย  โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ออก
            จับกุมหรือตรวจยึดของกลาง  เมื่อสถานการณ์และเหตุการณ์ในขณะนั้นเป็นเช่นนั้น                           ลาดตระเวน  สืบสวนหาข่าว  เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากร
            ก็ต้องจำฝืนใจทนทำหน้าที่ในการปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากรตามหน้าที่                                  ตามแนวชายแดน  โดยจะใช้มอเตอร์ไซค์นั่งซ้อนท้ายกันออกลาดตระเวนไปยัง
            ความรับผิดชอบต่อไปให้ครบเทอม  จนกว่าจะได้กลับไปทำงาน  ณ  ต้นสังกัดเดิม                              จุดเชื่อมต่อหรือช่องทางตามแนวชายแดนและเขตรั้วกั้นประเทศที่มีการลักลอบ

            ตามปกติ                                                                                             ขนของหนีภาษีเข้ามา  บางครั้งพบว่ามีการตัดรั้วลวดหนามออกเป็นช่องเพื่อกระทำ
                                                                                                                การลักลอบนำของเข้ามาโดยไม่ผ่านศุลกากรอย่างถูกต้อง  จึงต้องคอยลาดตระเวน
                    การปราบปรามการลักลอบในป่าสวนยาง                                                             สอดส่องป้องกันการลักลอบ  ซึ่งต้องทำในลักษณะป้องปรามและปราบปราม
                    ช่วงเวลา  3  เดือนที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยร่วมศุลกากรปาดังเบซาร์                         ควบคู่กันไป  นับเป็นประสบการณ์ชีวิตการทำงานในช่วงเริ่มต้นการรับราชการ

            นอกจากจะทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบ  ณ  สถานีรถไฟปาดังเบซาร์                               ใหม่ ๆ เพียงประมาณ  1  ปีเศษ  มีโอกาสได้เรียนรู้งานด้านการสืบสวน  หาข่าว
            และเขตต่อเนื่องดังกล่าวแล้ว  ยังต้องออกทำหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่เวรปราบปราม                       เฝ้าจุด  สังเกตการณ์  ซึ่งต้องใช้ความมานะอดทน  และความเพียรพยายาม
            ของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์  โดยการเข้าพื้นที่ในป่าสวนยางเพื่อเฝ้าจุด  สังเกตการณ์                    ทำงานด้วยความรอบคอบ  ระมัดระวัง  เพราะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ  ทั้งจาก
            สกัดกั้น  ซุ่มดักเพื่อตรวจค้นจับกุมผู้ที่กระทำการลักลอบขนของหนีภาษีผ่านทาง                          การกระทบกระทั่งขณะเข้าทำการจับกุมตรวจยึดของกลาง  ขณะดักซุ่ม  ลาดตระเวน

            ชายแดนไทย - มาเลเซีย  เข้ามาตามเส้นทางต่าง ๆ ในป่า  ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น                              อยู่ในพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพรที่อาจเกิดอันตรายจากสัตว์และแมลงหรือภัยธรรมชาติ
            ป่าสวนยาง  บางครั้งเข้าจุดซุ่มสกัดเพียงไม่นานก็จะพบกลุ่มผู้ลักลอบขนของ                              อย่างอื่นได้  การทำงานในพื้นที่อย่างนั้น  ต้องรู้จักยืดหยุ่นผ่อนปรน  แข็งมากไป
            หนีภาษีเข้ามาโดยใช้รถจักรยานยนต์บ้าง  รถยนต์บ้าง  แต่ส่วนใหญ่จะเป็น                                 หรืออ่อนเกินไปก็ไม่ได้  ต้องยึดสุภาษิตจีนที่พ่อสอนไว้ว่า  “ตึงเกินจะต้องขาด
            รถจักรยานยนต์มากกว่า  เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าแสดงตนออกดักจับ  ผู้ลักลอบก็จะ                             เต็มเกินจะต้องล้น”  ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อม  ตลอดจน

            ขี่รถหนี  เจ้าหน้าที่ต้องผลักให้รถล้มและเข้าทำการตรวจยึดของกลาง  บางราย                             วิถีชีวิตของชาวบ้านหรือผู้คนแถบนั้น  ทำให้เข้าใจในบริบทต่าง ๆ มากขึ้น  เมื่อเริ่ม
            ที่ขี่รถหนี  เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งไล่จับ  หรือขับรถตามจับกุมได้ทันบ้าง  ไม่ทันบ้าง                    เข้าใจในสถานการณ์และสภาพแวดล้อมในการทำงานมากขึ้นเป็นลำดับแล้ว
            บางครั้งต้องเฝ้าจุดซุ่มดักอยู่ครึ่งค่อนวันกว่าจะพบการลักลอบและจับกุมได้                             ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในวันแรกที่ไม่อยากทำงานในลักษณะแบบนี้อย่างที่กล่าวไว้



            84                                                                                                                                                                      85
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91