Page 89 - cover-biology-boontieam new28-8 i_coateduv
P. 89

ก็เริ่มคลายตัวและเริ่มมีกำลังใจ  พร้อมที่จะทำงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ       ขณะที่เดินกางร่มท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกหนักอยู่และฮัมเพลงไปด้วย

 และตามที่ได้รับมอบหมายด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่ต่อไป  ระหว่างทางหูแว่วได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเรียกเบา ๆ ว่า  “น้องๆ”  ขณะฮัมเพลง
               เพลิน ๆ อยู่  ไม่ทันได้คิดอะไร  ก็ตอบรับไปในทันทีว่า  “ครับ”  แล้วก็หยุดเดิน
    เจ้าแม่ประดู่   มองฝ่าสายฝนและความมืดไปรอบ ๆ ตัว  แต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน  เมื่อแน่ใจว่า
    ตลอดระยะเวลา  3  เดือน  นอกจากจะออกไปตรวจตราจับกุมของลักลอบ   ไม่มีใครแล้วก็เดินต่อไปยังโกดังและขึ้นไปบนห้องที่พี่คนนั้นเก็บกีตาร์อยู่  เมื่อได้
 หนีศุลกากร  ณ  สถานีรถไฟปาดังเบซาร์  การนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ออก   กีตาร์แล้วก็รีบกลับไปยังบ้านพักหลังที่กำลังกินข้าวกันอยู่  ขณะที่เข้าและออก

 ลาดตระเวนในพื้นที่ตามแนวชายแดน  และการเข้าเวรปราบปรามร่วมกับเจ้าหน้าที่   จากโกดังก็รู้สึกหวิว ๆ เย็นวาบเหมือนกัน  เพราะบรรยากาศในขณะนั้นมืดสลัว
 ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ดังที่เล่ามาแล้ว  ทุกเย็นสมาชิกหน่วยร่วมฯ  จะรับประทาน   ดูวังเวง  มีแต่เสียงฝนตกชวนขนลุกซู่  ขณะเดินกลับก็ยังนึกถึงว่า  เมื่อกี้ใครเรียก
 อาหารเย็นร่วมกันใต้ต้นประดู่ต้นใหญ่ที่มีผ้าสีผูกพันไว้รอบต้น  ซึ่งมีเรื่องเล่าขาน   เรา?  ทำให้รู้สึกหวาด ๆ ขึ้นมาและรีบเดินเอากีตาร์ไปให้พี่เขา  เพื่อจะได้เล่น

 ตามความเชื่อว่ามีเจ้าแม่ประดู่สถิตอยู่  จะลบหลู่มิได้  ใครที่เคยลบหลู่หรือล่วงเกิน   และร้องเพลงกัน  เมื่อกลับเข้ามาในวงข้าว  ได้เล่าให้พี่ ๆ และเพื่อนร่วมงานฟังว่า
 ด้วยประการใด  จะต้องมีเหตุเภทภัย  เช่น  เจ็บไข้ได้ป่วย  ต้องมีการขอขมาจึงจะ   เมื่อกี้ตอนเดินไปเอากีตาร์  มีผู้หญิงร้องเรียก  ขานรับไปแล้วแต่มองหาก็ไม่เห็น
 หายเป็นปกติ  ต้นประดู่ต้นนี้อยู่ใกล้กับที่พักของเจ้าหน้าที่หน่วยร่วมฯ  ที่อาศัย   มีใครอยู่แถวนั้น  พวกพี่ ๆ และเพื่อน ๆ ทักขึ้นมาว่า  ตอนกลางคืนถ้ามีเสียงเรียก
 โกดังเก่าที่เคยเป็นโกดังร้าง  เคยเป็นที่เก็บของกลางแต่ไม่ได้ใช้แล้ว  รวมทั้ง   คนโบราณเขาถือ  เขาจะไม่ให้มีการขานรับ  เพราะอาจเป็นวิญญาณที่ร้องเรียก
 อาศัยในบ้านพักของการรถไฟหลังเก่า ๆ บางหลังที่ไม่มีคนพักอาศัย  พอใช้เป็น   เพื่อหาคนไปแทน  พวกเขาที่พักอยู่ที่โกดังได้ยินเสียงเรียกในยามค่ำคืนแบบนั้น

 ที่คุ้มแดดคุ้มฝนอาศัยนอนได้ในระหว่างที่มาปฏิบัติหน้าที่  เรียกว่าอยู่กันไป   บ่อย ๆ  แต่ไม่มีใครกล้าขานรับ  เพราะเชื่อตามคำโบราณ  จากนั้นก็ไม่เป็นอันเล่น
 ตามอัตภาพ  เพราะเป็นการมาอยู่ชั่วคราวเพียงชุดละ  3  เดือน  เมื่อครบกำหนด   กีตาร์  เพราะหันมาคุยกันแต่เรื่องผี  ตามประสบการณ์ของแต่ละคน  จนก่อให้เกิด
 แล้วก็กลับไปทำงาน  ณ  ต้นสังกัดตามเดิม  จึงอยู่กันไปแบบพอเพียงจริง ๆ    ความกลัวขึ้นในจิตใจ  โดยยังนั่งคุยกันแต่เรื่องเกี่ยวกับผีจนดึก  เมื่อฝนหยุดตก

 ทุก ๆ เย็นเมื่อเสร็จงานแล้วก็จะมานั่งกินข้าวเย็น  พูดคุยกันใต้ต้นประดู่ต้นนี้    จึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนยังที่พักของแต่ละคน  ตัวผมเมื่อกลับมายังที่พักของตน
 ซึ่งก็เป็นปกติสุขดีไม่มีปัญหาอะไร  แต่มีอยู่เย็นวันหนึ่งเกิดฝนตกหนัก  ไม่สามารถ   ก็สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน  กราบหมอนตามปกติแล้วนอนหลับไป  ขณะ
 นั่งกินข้าวมื้อเย็นใต้ต้นประดู่ได้  ก็เลยต้องย้ายที่กินอาหารเย็นวันนั้นไปยังบ้านพัก   หลับสนิทได้ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง  ใส่ชุดคลุมท้องสีเขียวอ่อนลายดอก  หน้าตา
 ของการรถไฟฯ  หลังที่มีสมาชิกหน่วยร่วมฯ  พักอยู่  ฝนก็ตกหนัก  หลังคาก็รั่ว  มีน้ำ   ดูเศร้าหมอง  เดินขึ้นบันไดหลังบ้านเข้ามาหา  แล้วทรุดตัวลงข้าง ๆ  เอามือวาง
 หยดลงมากลางวงกินข้าว  ต้องคอยเลื่อนหลบหยดน้ำกันเป็นระยะ ๆ  ทุลักทุเลกัน   ที่บริเวณท้องของผม  ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกวูบเสียวในท้อง  เหมือนเวลาขับรถ

 พอสมควร  ตัวผมเองก็เลยต้องรีบ ๆ กินให้เสร็จจะได้ไม่ต้องคอยหลบหยดน้ำ   ขึ้นเนินสูงแล้วลงทางลาดอย่างรวดเร็ว  หรือเหมือนอยู่บนเครื่องเล่นที่อยู่บนที่สูง
 ที่หยดลงมาจากหลังคา  ฝนตก  อากาศเย็น  กำลังหิว  กินแบบรีบ ๆ  แต่ก็อร่อย   แล้วลดลงต่ำอย่างรวดเร็ว  ทำให้เสียววูบวาบในท้อง  แต่ไม่ทำให้ถึงกับสะดุ้ง
 เจริญอาหารดี  และกินเสร็จก่อนคนอื่น  กินเสร็จแล้วก็ยังนั่งอยู่กับเพื่อนร่วมงาน    ตกใจตื่น  ในฝันยังมองเห็นดวงตาเศร้า ๆ ของผู้หญิงคนนั้น  เมื่ออาการวูบวาบ

 ดูคนอื่นกินข้าวเพลิน ๆ ไป  เพราะไปไหนก็ไม่ได้เนื่องจากฝนกำลังตกหนักอยู่    ในท้องหายไป  ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นและเดินลงจากบ้านไปโดยมิได้พูดอะไร
 เกิดความรู้สึกนึกกับตัวเองว่า  วันนี้ทำไมเราจึงกินข้าวเสร็จเร็วก่อนคนอื่น  แถมยัง   ผมเองก็หลับต่อและตื่นเช้าตามปกติ  แต่ยังจำความฝันในคืนที่ผ่านมาได้ดีและ
 กินได้เยอะ  กินเหมือนตายอดตายอยากมาจากไหน  แปลกมาก  ทำไมจึงคิด   นึกทบทวนผูกเรื่องตั้งแต่เมื่อคืนวาน  ที่ผมกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนตายอด
 แบบนั้นก็ไม่รู้  ขณะที่นั่งดูเพื่อน ๆ กินข้าวกันอยู่  เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเห็นผม   ตายอยาก  เหมือนกินไม่เผื่อใคร  ผมถูกผู้หญิงเรียกในยามค่ำคืนและขานรับ
 กินข้าวเสร็จแล้วก็บอกว่าให้ผมช่วยเดินไปเอากีตาร์ที่อยู่ในห้องพักบนโกดังเก่า   ไปแล้ว  ตอนนอนหลับก็มีผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ามาก่อนมาเข้าฝัน  เอามือ

 ให้หน่อย  เพื่อจะได้เล่นกีตาร์ร้องเพลงระหว่างกินข้าว  ตัวผมเองว่างอยู่เพราะ   มาวางที่ท้องจนรู้สึกเสียววูบวาบในท้อง  ก็เลยคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงจะหิว  ร้องเรียก
 กินข้าวเสร็จแล้ว  ก็เดินกางร่มฝ่าสายฝนไปยังโกดังดังกล่าว  ใครต่อใครมานานแล้วแต่ไม่มีใครขานรับ  ตัวผมเมื่อถูกเรียกครั้งแรกก็ขานรับไป



 86                                                                                 87
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94