Page 32 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 32
ิ
ั
้
ั
้
ั
การเข้ามหาวทยาลยนนไม่ใช่ว่าเราจะจบชน ม.๖ แล้วไปเข้า
ได้เลย เขาจะต้องไปเรียนชั้น ม.๗ - ม.๘ เสียก่อน เพราะสมัยก่อนนั้น
ั
การเรียนช้นมัธยม (ม.๑ - ม.๖) เป็นการเรียนพ้นฐานจริง ๆ ซ่งการ
ื
ึ
เล่าเรียนถึงระดับน้เพียงแต่ให้ตนมีความรู้ พอท่ว่าจะอยู่เป็นพลเมืองด
ี
ี
ี
ั
ั
ั
ิ
ั
ึ
้
ี
้
ระดบกลาง ๆ เท่านน แต่ถ้าจะเรยนสูงขนไปในระดบมหาวทยาลย
จะต้องเตรียมตนให้พร้อมย่งกว่า จะต้องมีความรู้พ้นฐานขยับข้นไป
ื
ิ
ึ
ึ
ั
อีกระดับหน่ง เพราะการสอนในโรงเรียนกับในมหาวิทยาลัยน้นมัน
ต่างกันมากมาย คือโรงเรียนเวลาสอนคุณครูจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
การสอนและผลการสอนด้วยความละเอยด ทงหลักวชาการต่าง ๆ
ี
ั
้
ิ
ั
ื
ก็เป็นระดับพ้น ๆ การให้นักเรียนขวนขวายอะไรต่าง ๆ น้น มีไม่มาก
จะมีก็เพียงแต่การบ้านให้นักเรียนกลับไปท�าท่บ้าน แล้วมาส่งใน
ี
ั
ิ
วันหลังเท่านนเอง แต่การเรียนในมหาวทยาลัยน้น มนต่างกน เพราะ
ั
้
ั
ั
ว่าครูอาจารย์ท่สอนจะมาสอน หรือมาบรรยายในช้นเฉย ๆ ต่อจาก
ี
ั
ิ
น้นนักศึกษาต้องการรู้อะไรต้องไปขวนขวายหาความรู้เพ่มเติมใน
ั
ี
ื
่
้
ี
ั
ึ
รายละเอยดย่งขนเอาเอง ตามแนวหวข้อเรองท่อาจารย์บรรยายแล้วนน
ั
้
ิ
ึ
ิ
ั
ึ
ซ่งโดยปกตนักศกษาก็ต้องไปค้นคว้าตามห้องสมุด ในมหาวิทยาลย
เองก็มีห้องสมุด ห้องสมุดประจาคณะบ้าง ห้องสมุดกลางบ้าง สาหรับ
�
�
ให้นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าไปค้นคว้าได้ การเรียนในมหาวิทยาลัย
จึงเป็นวิธีการเรียนท่ตนเองจะต้องขวนขวายเอาเอง มิใช่เหมือนช้น
ี
ั
้
ื
็
ประถม หรือมธยม ซึงผ้ขวนขวายแท้ ๆ แล้วกคอครู เพราะฉะนัน
ู
ั
่
จึงต้องไปเรียนให้มีความรู้ระดับเตรียมอุดมศึกษาเสียก่อน
แล้วเราก็ได้ไปสอบเข้า ‘โรงเรียนเตรียมอุดม’ กับเขา แต่ปรากฏ
ว่าเราสอบไม่ได้ดอก วิชาท่เป็นหลัก ๆ เช่น วิชาเลขคณิต เรขาคณิต
ี
พีชคณิต หรือวิทยาศาสตร์ เราเรียนไปจากต่างจังหวัด ความรู้เรา
ื
แน่นทีเดียว ส่วนวิชาอ่นท่วไป เช่น สังคมศึกษา วิชาความรู้ท่วไป
ั
ั
l
18 พระพิชิต ชิตมาโร