Page 437 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 437
�
ั
ึ
ี
ซ่งใครท่เป็นมาลาเรียแล้ว ถึงแม้มันกาเริบหนาวส่นแล้วสงบหาย
ไป ก็ไม่ใช่ว่าจะหายทีเดียวหรอกนะ อาการไข้มันจะคอยก�าเริบเป็น
ื
ระยะต่อมาอีกเร่อย แต่นานไปอาการจะค่อย ๆ เบาลง) หลายวัน
ต่อมา คณะเราก็ได้ก�าหนดเดินทางต่อ พอออกจากพาราณสีพวกเรา
ึ
ี
ก็มุ่งไปท่เมืองสาวัตถี ซ่งอยู่ไม่ไกลจากพาราณสีมากนัก การ
ี
เดินทางก็ด้วยรถบัสเล็กคันเดิม ท่พาคณะเราเดินทางจากพุทธคยามา
พาราณสีน่นเอง พนักงานประจ�ารถก็เป็นคนชุดเดิม คือ มีโชเฟอร์
ั
คนหน่งเป็นคนในวัยหนุ่มประมาณ ๓๕ ปี กับเด็กรถผู้ชายอีกคน
ึ
ึ
ึ
หน่ง อายุก็คงจะไม่เกิน ๑๖ ปี ซ่งท้งสองคนน้ ต่อมาก็ชักจะคุ้นเคย
ั
ี
่
ี
่
กนบ้าง เพราะเหตุทต้องเดนทางร่วมกันเป็นเวลาหลายวนเข้า เราท
ี
ั
ิ
ั
มักชอบพูดเล่นพูดหัว และอยากรู้ในภาษาของบ้านเมืองท่ได้ไปเยือน
ี
บ้าง ก็ได้พยายามถามเขา หัดพูดภาษาของเขา แต่ภาษาแขกอินเดีย
�
�
�
น่มันลาบากเหลือกาลังนัก เพราะถ้อยคามันมีกล้ามีการันต์ การ
�
ี
ิ
พูดเร็วจ๋ และท้งกระดกล้น ร - เรือ เร็วปร๋อไม่มีภาษาใดเท่า ฟัง
ี
ั
ื
ี
ไม่ทันเอาเสียเลย เราท่ไหนจะพูดได้ล่ะ สุดท้ายเราจึงไม่ได้ภาษาแขก
เลยแม้แต่ค�าเดียว และเราก็ลืมช่อของแขกสองคนน้นไปเสียแล้ว..
ื
ั
“วดพระเชตวน“
ั
ั
คณะของพวกเราเดินทางไปถึงเมืองสาวัตถีก็เป็นเวลาช่วงเย็น
แล้ว พวกญาติโยมเขาไปติดต่อเข้าพักท่วัดไทยสาวัตถี ปรากฏว่าท
่
ี
ี
วัดไทยสาวัตถี เขามีโปรแกรมว่ามีคณะใหญ่จากเมืองไทยเข้ามา
พักเต็ม ไม่มีท่จะให้คณะเราพักแล้ว ทางญาติโยมเขาคงจะได้รับ
ี
คาแนะน�าจากคนของทางวัดว่ามีรีสอร์ทอยู่หลังหน่งซ่งไม่ไกลจาก
�
ึ
ึ
ี
ี
ท่น่นัก เขาเปิดให้เช่าส�าหรับแขกผู้มาพัก พวกเราจึงตกลงเข้าพัก
l
ความเปนมาของเรา 423
็