Page 13 - ปกเล่มบทพากย์pdf
P. 13
ดังเพ็ชร์รัตน์รูจี
งานหนึ่งเจ็ดโบกขรณี สระหนึ่งย่อมม ี
เจ็ดกออุบลบันดาล
กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งเบ่งบาน
มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา
กลีบหนึ่งมีเทพธิดา เจ็ดองค์โสภา
แน่งน้อยลำเภานงพาล
นางหนึ่งย่อมมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์”
(น้อมนิจ วงศ์สุทธิธรรม,2555,น.147)
ทีนี้จะว่าด้วยช้างเอราวัณสืบต่อไป ปาริจฺฉตฺตกมูลํ คนฺตุกาโม กาลเมื่อสมเด็จอมรินทราปรารถนาจะ
เสด็จไปสู่ร่มไม้ปาริกชาติและระลึกถึงช้างเอราวัณเทพบุตรในกาลใด หฏฺฐตุฏฺโฐ
เอราวัณเทพบุตรก็ชื่นชมโสมนัสปรีดา มาประดิษฐานอยู่ในที่เฉพาะพระพักตร์แห่งสมเด็จอมรินทราธิราชใน
กาลนั้น ทิยทฺฒโยชนสติโก อุพฺเพเธน เอราวัณเทพบุตรนั้นนฤมิตกายเป็นช้างสูง 150 โยชน์ ยาวแลกลม
นั้นสมควรกันกับสูง เตตฺติํส สีสานิ นิมฺมิมิตฺวา นฤมิตกระพองเศียรนั้น 33 เศียร กระพองเศียรแต่ละ
กระพอง ๆ นั้น มีกำหนดโดยกลมได้ 300 เส้น ๆ ติํสโยชนิโก กุมฺโภ กระพองกลางที่จะเป็นกระพองทรง
แห่งสมเด็จอมรินทราธฺราชนั้นกลมรอบได้ 30 โยชน์ มีนามปรากฏชื่อว่าสุทัสสนะ ตสฺสุปริ ณ เบื้องบน
กระพองที่ชื่อว่าสุทัสสนะนั้นมีมณฑปแก้วสูง 12 โยชน์ ประดับด้วยธงชัยปักอยู่ไสวเป็นหลั่นเป็นชั้น โยชนุพฺ
เพธา ธงทั้งหลานนั้นแต่ละคัน ๆ สูงได้โยชน์หนึ่ง ๆ ล้วยแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ ปักอยู่ทุกระหว่าง
ๆ ปริยนฺเต กิงฺกณิกชาลา ในที่ประเทศที่สุดฝ่ายข้างมณฑปแก้วนั้นละห้อยย้อยไปด้วยระเบียบพรวนแล
กระดึงทั้งหลายเรียบเรียงกันเป็นถ่องเป็นแถวพิจิตรไปด้วยใบโพแก้วแวววาววะวาบวัว กลอกกลับสะบัดโบก
ตามกำลังลมระบาย มนฺทวาเตริตสฺส กาลเมื่อพระพายอ่อน ๆ รำพายพัด เสียงพรวนแลกระดึงทั้งหลายนั้นก็
ดังสนั่นเสนาะ ฟังนี่ไพเราะจับจิต เปรียบประดุจกระแสสำเนียงแห่งทิพยสังคีตและทิพยปัญจังคิกดุริย
ดนตรี มณฺฑปมชฺเฌ ณ ท่ามกลางมณฑปแก้วอันสูง 12 โยชน์นั้นมีบัลลังก์แก้วมณีสูงได้โยชน์หนึ่งลาดไป
ด้วยทิพยปัญจถรณ์อันมีสัมผัสอ่อน ๆ
พิจิตรด้วยสีแลสันฐานเป็นที่นิสัชชนาการแห่งท้าวมฆวานสหัสนัยน์เทวราช ยังกระพองน้อย ๆ 32 กระพองนั้น
ก็มีบัลลังก์ทิพพาอาสน์เหมือน ๆ กันสำหรับเป็นที่นั่งแห่งพระอินทรเทพบุตร 32 พระองค์ สรรพคชาภรณ์ทั้ง
11