Page 161 - BookHISTORYFULL.indb
P. 161
ี
นายธวัชชัย เนียมพูนทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ท่ ๔ บ้านลาดสะแก เล่าว่าบริเวณน ี ้
ี
�
เคยเป็นป่าท่ต้นสะแกข้นเป็นจานวนมาก ต่อมาป่าถูก ทาลายเป็นท่อยู่ และมีตัดถนนผ่าน ป่า
ึ
�
ี
สะแกก็หมดไป บ้านลาดสะแก สภาพพ้นท่ลาดเอียงไปทางทิศใต้เขาเลยเรียกบ้านลาดสะแก
ื
ี
หลวงตาบัว เกตุกิ่งแก้ว พระวัดโคกเขมา อายุ ๘๘ ปี หมู่ที่ ๕ บ้านโคกเขมาบวช
เป็นพระมาเกือบ ๕๐ พรรษา บอกว่าได้ยินได้ฟังมาจากหลวงพ่อคนเก่าว่า เขาก็เรียกกัน
อย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งก็ไม่เคยสงสัยอะไร
คุณยายสวิง นาคจินวงศ์ อายุ ๘๐ปี อยู่บ้านโคกเขมาเล่าว่าสมัยที่ท่านเป็นเด็ก
ปีที่เกิดน�้าท่วมใหญ่ประมาณ พ.ศ. ๒๔๘๓ ที่นี่น�้าท่วมไม่ถึง เพราะเป็นที่สูงเป็นโคกใหญ่
มีพุ่มไม้ขนาดกลาง เยอะมากมีผลเป็นพวงๆ กินได้แต่รสเปรี้ยวมาก คนแถบนั้นเรียกต้น
ข้าวเม่า ต่อมาน่าจะเกิดการออกเสียงเพี้ยนไป กร่อนส�าเนียงเป็น “โคก-ขะ-เหมา”
คุณตาไร เข็มทอง อายุ ๘๓ ปี เป็นคนโคกช้าง โดยก�าเนิดเล่าว่าที่แถบนี้แต่ก่อน
เป็นป่าเป็นโคกสูง
ี
้
�
ี
ี
�
เป็นท่พักช้างท่ลากซุงมาลงแม่นาทางท่ช้างเดินเป็นล่องลึกเป็นลาคลอง ปัจจุบัน
ยังมีต้นซุงใหญ่ฝังอยู่ในคลองเอาข้นมาไม่ได้ ทางการเขาจะยึดเอาไป เขาเรียกกันว่าบ้าน
ึ
“คอกช้าง” บ้าง “โคกช้าง” บ้าง มาแต่ไหนแต่ไรนั้นตาไม่รู้ แต่แถวนี้ปู่ย่าตาทวดเคยพูดว่า
มาต่างอพยพจากเวียงจันทน์
นายเทียน ญาติบรรทุง อายุ ๘๐ ปี อตีตข้าราชการครู เเกิด และเติบโตที่คอกช้าง
ี
น้เล่าว่าสมัยท่ยังเป็นเด็กเคยว่งเล่นบนท่อนซุง ต่อมาเขาเอาไปถวายวัดทุ่งน้อย แปรรูปสร้าง
ิ
ี
ศาลาวัด ข้างหมู่บ้านเป็นป่าช้า ป่าไผ่ใหญ่ และรกทึบ เขาว่าเป็นที่เลี้ยงช้าง ปัจจุบันพื้นที่ดัง
กล่าวเป็นที่ตั้งโรงเรียน
ครู : เป็นอย่างไรบ้าง งานส�าเร็จไหม ได้อะไรมาบ้าง เอามาดูกันซิ
นักเรียน : ครูครับ หมู่ที่ ๖ ผมยังไม่รู้เลยว่าชื่อบ้านโคกช้าง หรือ “บ้าน
คอกช้าง” กันแน่ แต่ที่หน้าหมู่บ้านเขียนว่า “บ้านคอกช้าง”
: หมู่ท่ ๔ ก็เหมือนกันบางคนเรียกบ้าน “สาดสะแก” บางคน
ี
ี
เรียกบ้าน “ลาดตะแก” ท่สาคัญนะครับ สมัยผู้ใหญ่คนเก่าเขียน
�
ชื่อ “หมู่บ้านลาสแก” แต่ปัจจุบันเขียน “บ้านลาดสะแก”
ครู : แล้วหมู่ที่ ๕ บ้านโคกเขมาล่ะมีปัญหาอะไรไหม
ั
ั
ี
นกเรยน : ไม่มีครับ ผมเช่อว่ามาจากต้นข้าวเม่าน่นแหละครับแล้ว
ื
กร่อนเสียงเหลือแต่ โคก-ขะ–เหมา
159