Page 219 - เมืองลับแล(ง)
P. 219
ี
ม้างเวียงแลข้าพระเจ้า ขอหื้อฝูงหมู่ชาวทั้งหลายจุ่งตกเถิงยังหม้อมหานรก หื้อตกไข้ได้ผี หื้ออยู่บ่ดกินขม พญา
อินพรหมอย่าไดป้อง หื้อมีทุกรขัดข้องหมองขีก็มี หั้นแล
ฝ่ายหมื่นด้ง เจ้าเมืองละกอร กุมช้างม้าเศิก แลเจ้าแก้วกุมหล้า แลพลเศิกชายหาญอันหลวงหลาย ก็
กุมพลเข้านั่งเชลียงเวียงไธยใต้ได้เจ้าแก้วกุ้มหล้าตายคว่ำวำวายในเศิก ก็มีในวันนั้น ชะแล
ในกาละนั้น พระญาจอมธัมม์ติโลกะมหาราชาฟ้าฮ่ามจึ่งได้เสกหื้อหมื่นด้งนครเจ้าเวียงละกอร ขึ้นกิน
้
เวียงไธยเชียงแคว้นใต้ แลถาปะนาใส่ชื่อว่า “เวียงเชียงชื่น” ยกขึ้นนั่งแหล่งแท่นฅำเป็นเจ้าช้างปางฅำ เจา
่
หมื่นด้งนครแลสั่งเทวีอั้วป้านฅำ นางเวียงเจ้าชางหมื่นด้ง แลญาติวงศากุมเทครัวชาวเวียงละกอรลงมาใสไว้ใน
้
เวียง นับจักแต่งเวียงไปหน้าใคว่ได้ครบขวบข้าว ก็ออกตีเหล้นเศิกไล่ต้อนชาวละกอมไธยใต้สรีโยธิยา ลงกุมเวียง
ใหญ่น้อย ชาวเวียงญิงชายหนุ่มเถ้าก็อยู่ดีกินหวาน ตานม่วนพระศาสนาก็ก้านกุ่งจะไจ้ สืบข้าวกล้าในนามาก
หลายฝูงช้าง ม้า งัว ควาย หนานำ ชะแล
้
ั
้
ข้างฝ่ายตนพระญาเจาชางนั่งเวียงลบแลงไชยเวียงเชียงใหม่แก้วกว้าง ก็แต่งเวียงแลก้ำพระศาสนาทะ
ั่
รงสงหื้อหาญฅำลือ หาญคงเสน ๒ เสนามอำมาตย์ได้ปงฝูงฅนเข้าแต่งสร้าง แป๋งพิหารใหม่วัดช้างแลนหัวข่วง
่
้
้
ด้วยอารามหลังเก่าตองไฟปืนเหล้มกล้าห่าหลวงไหม้ม้างลงแล ๒ หาญตนกล้าก็ยอขันยก ๒ นางบุตตาไดนางส ุ
คันธา บุตตาเจ้าหาญฅำลอ แลได้นางสรีปิมปา บุตตาเจ้าหาญคงเสนขึ้นนั่งผาสาดแก้ววิวาหะ ฅำร่วมไขว่ขัน
ื
ผีปู่ย่าพระญาเจ้า กาละนั้นตนพระญาช้างเวียงลับแลงไจยตนเป็นใหญ่ในจุมปูหล้า ก็ทะรงยุรยาตรลีลาสรเด็ด
มายังแหย่งฅำหลังช้างปู้ลวงฅำ ตนทะรงเครื่องสะง้าอะลังกานสุบกะจุมหัวฅำแก้วน้ำแดงก้อแวดกุมดาบเถี่ยนก
ล้า สรีกัญไจยฝักฅำ สุบเกิบฅำงวงงอนตนทะรงผ้านุ่งตุ้มงามอย่างวิเสกสีขาวปอนปองาม ป๊าดสายสะเทมสร้อย
ิ้
ตัวสังวาล แลเครื่องค้าวมาวจ๋าวแขนสุมแหวนธำมะรงวงใสสอดคลานฅำขะจอรหู งามดั่งองค์อินตาเรืองธิราช
สะเด็จบนหลังพญาช้างเอราวัณลอยเฟือนไหวมาในผาสาดฅำเวียงบนชั้นฟ้าตาวะติงสา นั้นแล ฝ่ายสองนาง
เทวีหน่อไท้นางเวียงไจยลบแลงแก้วกว้างก็ทะรงเครื่องเครื่องหย้องปองาม เหน็บปิ่นฅำดารดาษสอดเกี้ยวกอด
ั
ดอกไม้บุปผานานา ทั้งเกดถะวา สะบันงาเมืองใต้ ดอกป้าวขาวปอน ดอกขะจอนหอมไก๋ สองนางไท้เทวีเวียงก็
ี
ทะรงเครื่องนุ่งงามสะง้า สว้านผ้าสองชั้น ผ้าตาฝั่งเครือไหม แลผ้าเครือไยแขกเทศ นางเวียงสุคันธาสว้านสแดง
กุมฅำ นางเวียงสรีปิมปาสว้านสีฅำจำปากุมยอดตอง งามผุดผ่องส่องใส แลแม่นางเวียงก็ทะรงนุ่งซิ่นไหมไก
ปันฅำ สีซิ่วหนาตาเหล้ม ต่อตีนจกกลายหงษาตัวฅำ มีปีกหงอนลงฟ้อนเหล้นกับจอนาคลายเครือ แลนางทะรง
่
สุบสายสะเทิ้มสร้อยสังวานม้าวแขนข้อมือ นิ้วกุมสุบแหวนกุแม่งามดั่งนางเทวีอันลุกมาแต่ชั้นฟ้าเมืองบน แล
กระบวนช้างม้าหนาหนำ ฝูงชาวฟ้อนนางหลายหุมแห่ ยกย่างย้ายแอ่นแขนลีลาดั่งมฤคคาฟานหกโดด งามดั่ง
งวงช้างน้อยโกดแก้วแสง งามดั่งแผงหางมยุระบังอันอ่อนไกว งามดั่งหางเล็นหางไหน่ฃอดบ้วงไหลปอนงาม
การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
หน้า ๖๙