Page 223 - เมืองลับแล(ง)
P. 223

กุมเวียงไธยใต้สรีโยธิยา  ริบจากพระญาศรีสุธัมมะราชาผู้อาว  ตนน้องพระญาผาสาทฅำผู้พ่อ แลขึ้นนั่งเวียงถัด

               มารอดเถิง ปีกดใจ้ จุลศักราชได้ ๑๐๒๒ ตัว  พุทธศาสนานับล่วงได้ ๒๒๐๓ ปีข้าว พระญาเวียงไชยสรีโยธิยา
               สองฝั่งฟ้าเจ้าละโว้ขุนมหานารายตนเป็นเจ้าจอมธัมม์ กุมพลเศิกหมายใจขึ้นมาตีเวียงเชียงใหม่ด้วยพระญาฅำ

                                                                                               ิ
               แขกเจ้าเวียงแพร่ ผู้กินเวียงเชียงใหม่ ส่งใบบอกท้องตราขอขึ้นมาน้องต่อเวียงไธย แลจักขอพลเศกขึ้นแก้เวียง
               ขับม่าน  ขุนมหานารายเจ้าจอมธัมม์ก็จักพักยั้งที่เวียงสองแฅว ไคว่ครบได้ ๒๐ วัน ก็ยกพลเศิกขึ้นมาพักยั้งท ี่
               เวียงลับแลงไจย  เจ้าจอมธัมม์ขุนนารายก็ออกไหว้สาพระเจติยะเจ้าพิหาร อันสืบมาแต่ตนพระญาลือไธย ยัง

               ดอยม่อนแก้วเจติยะพิหารนั้น  แลได้สรเด็จเข้าเวียงผ่านประตูผาแก้ว ขุนหาญกาบแสงเจ้ากุมเวียง แลชาวเวียง

                                                                                                       ้
                           ้
                                                                                                    ั
                                                                                  ุ
               ออกรับต้อนเจาจอมธัมม์ขุนนาราย ถวายเงินนับได้ ๑๐๐ เงิน แป๋งพระวิหารวัดบปผารามสวนดอกไม้สก ดวย
                                                          ึ
               เหตุว่าเกิดเกล๊าไม้สักขอนหลวงกูดล้ม  พระญาใต้จ่งสั่งเกนครัวคนฝูงทั้งหลายเกียวดาหินดินกี่จากวัดห่าว แล
               ครัวไม้ ครัวงามมาก่อปอกงำพิหารเปยกุมโขงหลังแต่เดิมหื้อมั่น  รอดเถิงยังวัดลับแลงหลวง  แลข้าสาไหว้กราบ
                                                   ื
                             ิ๊
                                                                                              ์
               พระเจ้ายอดฅำตบ แลถามความฟู่จ๋าจึ่งไดสบถามหายังพระเจ้ายอดฅำติ๊บ เมืองลับแลงไจยองคกันพระญาตน
                                                  ้
                                                                                                  ้
                                                                          ้
               เป็นใหญ่เจ้าช้างติโลกราชาฟ้าฮ่าม แป๋งส้างมาสมเร็ดก็ยอขึ้นแหย่งหลังชางปู้ฅำตีเอาเชลยงได้ ก็จึ่งไดรู้ความว่า
                                                                                       ี
                                                                ั
               พระเจ้ายอดฅำติ๊บ หม่นหมองศรี เหตุว่าไม่มีชาววัดอยู่ปฏิบติรักษาอุปฐาก  แลโดนขี้สะตายน้ำอ้อยปอกพันหา
               ฟื้นตำนานไม่ได้ ไม่มีชาวรู้สักฅน ว่าอั้น พระญาใต้จึ่งสั่งหื้อเลิกเบิก สะตาย และสระสรงน้ำขอสมาพระเจา แล
                                                                                                     ้
                                      ี
               ปิดฅำน้ำรักหื้องามใสเป่งดอย่างเก่า  เหตุนั้นผู้ข้าทั้งหลายจึ่งได้พร้อมกันเขียนหนังสือพื้นตำนานแล้วได้ใชหื้อ
                                                                                                       ้
                                     ั
               เจ้าหมื่นช่อฅำตนกุมเวียงลบแลงไชย ผู้ลูกขุนหาญขาก่าน เอาออกมาหื้อหันแก่คฤหัสถ์ นักบวชเจาทงหลายใน
                                                                                                 ั้
                                                                                               ้
               เวียงลับแลงไจย

                       ที่นั้น มีธุเจ้าปู่ครูสุวรรณปัญญาญาณได้รจจารแป๋งจารึกไว้กับวัดลับแลงหลวง เมืองลับแลงไจย ตราบ
               ต่อเต๊าห้าปันพระวสา ก็มีวันนั้น ชะแล


                       กล่าวตำนานพระพุทธรูปเจ้ายอดฅำติ๊บ เมืองลับแลงไจย ตามถ้อย ก่อแล้วเท่านี้ก่อนแหล  ่

















                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๗๓
   218   219   220   221   222   223   224   225   226   227   228