Page 218 - เมืองลับแล(ง)
P. 218

๋
                                  ้
               เชลียงเวียงไธยมาอยู่ใตตัว ปาระมี ก็มีนั้นแล”  กันพายเจ้าพระญาแก้ววงเมืองยี่กวามจาความสมเร็ด พระญา
               เจ้าจ้างเชียงใหม่ก็ตื่นจากสุบินนิมิตฝัน ก็ออกมาผามยั้งอันปักล้อมยังม่อนพระเจติยาธาตุเจ้า จึ่งออกเวียน
                                                 ้
               ทักขิณานุวัตร ไหว้สายังพระเจติยาธาตุเจา แลเกิดเหตุมังคลาพิเสดสกใส เกิดแสงธาตุแก้วขาวนวนเป่งวะ ดวง
                                                                       ุ
               ๑ ลักขณาดั่งหน่วยหมากลอยเล่นล้มลุกมาแต่ข่วงพิหารสายดือเวียงอีกดวง ๑ ลอยลุกมาแต่จอมเจติยาเจาแก้ว
                                                                                                     ้
               แสงงามใสลอยเล่นวนขึ้นลงแลลอยเล่นลมแวดเวียงลอยขึ้นเหนือ ล่องลงใต้แลขึ้นเหนือเวียนได้สามหน ก่อน
               ลอยแยกแตกลงจมบนแผ่นดินแม่ข่วงงาม ๑ แลลอยลับลงบนเจติยา ๑ พระญาเจ้าช้างฟ้าฮ่ามติโลกะมหาราชา

                                                       ื
               ก็โสมนัสสายินดี  จึ่งบอกหมื่นด้งนคอรหาญคำลอเวียงละกอร หาญคงแสนเวียงสระ  และพลเศกชายหาญนับ
                                                                                              ิ
               ๕๐ คน แล่นลัดลงม่อนเชียงแก้วดอยพระธาตุลัดข้ามน้ำแม่ห้วยแก้วจุมปูป่าส่มป่อง ก๋ายยังนาป่าโป่งวัดเช
               ตะวันริมตาฝั่งน้ำแม่กะเถิงยังข่วงอารามสายดือเวียง แลไล่ขุดคดยังข่วงแก้วนั้นก้ได้ขะอูบฅำแก่นงามในจธาต ุ
                                                                                                      ุ
               เกลี้ยงขาวรีดั่งเม็ดข้าว ก็เกิดโสมนัสยินดียิ่งจึ่งได้ยอถวายยังพระญาเจ้าช้างเวียงพิงคณที ตนพระญาฟ้าฮ่ามตโล
                                                                                                        ิ
                                             ิ
               กะมหาราชาก็สั่งเจ้าหมื่นด้งนับพลเศกไซ้ชายหาญตัวหล่อพระพิมพาสารูปพุทธเจ้านับได้ อ้ายหนานฅำ น้อยสุก
               อ้ายแสงลาว น้อยบัว  อ้ายสินลาว แลอ้ายหนานปง ฝูงเขานั้นตั้งขันดาบอกหมากพลูก่อเบ้าเป็นตุ้มฅำพระ

               พิมพาสารูปพุทธเจ้า ปักราชวัตรยอดตุง หมากลูกป้าวจาวใน ตั้งน้ำหมายตานหยาดเอาบุญเถิงยังพายพระญายี่

                                                  ิ
               กุมกวาม ในกาละนั้นตนพระญาจอมธัมม์ตโลกะมหาราชาฟ้าฮ่ามก็มีใจชื่นช้อยโสมนัสสาได้ผาถะนาเถิงยังพาย
               พระญายี่กุมกวามตนเฒ่า ได้ถอดเอาปิ่นมั่นเกลายอดฅำแก้วผะจำแดงดั่งเลอดนก ยอยกเอาถวายเป็นพระโมล ี
                                                      ้
                                                                             ื
               ยอดเกล้า ผะจุเอา  ขะอูปพระธาตุก็สมเร็ดได้ในวันเป็งเต็มดวง  ยามเช้า นั้นแล  กันได้พระพิมพาสารูปพุทธ

                                                                                                ั
               เจ้าสมเร็ดงามดั่งใจหมาย จึ่งใส่ชื่อว่า “พระยอดฅำติ๊บ” ก็ยกใส่ขึ้นแท่นฅำหลังช้างปู้ลวงฅำ เดนลดข้ามน้ำแม่
                                                                                             ิ
                                                                                                     ้
                                                                                                   ั
                                                                                                        ั
                                                                                  ่
               เถิงยังข่วงอารามพิหารสายดือเวียง ก็มีใจชื่นชมยินดีด้วยว่าเวียงนี้บัวริบูรด้วยน้ำทาแลข้าวกล้าในนา ตวชางตว
               ม้าก็หนำหนานักหลาย ฝูงหน่วยไม้ผาลาก็มากนักด้วยเหตุว่าชาวพาราเวียงเก่ากั้นป้านคันเหมืองฝายไหลด แล
                                                                                                      ี
               มีน้ำหนองสระหลวงเลยงตอนนาเวียง จักควรสืบเวียงไปปายหน้า จักไว้ส่งข้าวกลาปลาชิ้น จงกึ้ดคระนึงใจยก
                                  ี้
                                                                                           ึ
                                                                                  ้
                                     ้
               ใส่ชื่อเวียงใหม่ว่า “เวียงลับแลงไจย” เวียงใหม่แก้วกว้างขึ้นนั่งแท่นฅำเหลืองผาสาดเรืองฅำ เป็นพระญาตน
               เกล๊าแรกกุมเวียง  แลพระญาตนวิเสกก็สั่งพลเศิกชายหาญทั้งหลายหื้อปกโองฅำหอหลวง แลยอขันมายังพระ
               สารูปพุทธเจ้ายอดคำติ๊บขึ้นโฮงหลวง ในสายดือพิหารอาราม แลตั้งเสดยอชื่อวัดว่า “วัดลับแลงหลวง” จารลง
               หลักแผ่นฅำ แลหยาดน้ำหมายตาน ก็มีนั้นแล



                       กันว่าตั้งวัดหลวงไจยเวียงแก้ว พระญาตนจ้าช้างก็บอกความจ๋าสั่งตั้งหอฅำน้อยโฮงไชย ยอขันรับมายัง
               พายวิญญาตนพระญายี่กุมกวามแก้ววงเมือง ขอเป็นอารักษ์ผีหลักเวียงปกห่มขวัญชาวเวียงสืบไป จึงยอขัน

               มายังพระสังฆะศีลใสนับใคร่ว่าได้ ๑๒๕ ตน พุทธาวิเสด ตั้งเวียงแลกันปะนาชาวเวียงลับแลงไจย ๑๐ ครัว นับมี

               น้อยสี นางอุ้ง ครัว ๑ อ้ายเพก อีบัวออน ครัว ๑ หนานเกิด ครัว ๑ แสนปัญญา นางสอง ครัว ๑  อีฟองม้าย
               ครัว ๑ น้อยเกิด นางหน่อสิน ครัว ๑ พันจ่อ นางเกง ครัว ๑ หาญตอง นางอิ่น ครัว ๑ เถ้าหนานดี นางชม ครัว

               ๑ อ้ายมา อีเป็ง ครัว ๑ ไว้เป็นข้าพระเจายอดคำตบ แลหยาดน้ำหมายตานจ่มแช่งยังพระญาตนใดหมายมาจก
                                                ้
                                                                                                        ั
                                                        ิ๊
                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๖๘
   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223