Page 55 - เมืองลับแล(ง)
P. 55
ลับแลในรัฐสีมากรุงธนบุรี
ี
หลังจากเสียกรงศรอยธยาแล้ว พระยาตากสินได้นำทัพขับไล่ค่ายพม่าของสุกี้พระนายกอง
ุ
ุ
สำเร็จ เหล่าข้าราชราชทั้งปวงจึงอัญเชิญพระยาตากสินให้เสวยพิภพปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย ์
ี
ครองกรุงธนบุรีศรอยุธยาเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๓๑๑
ั
ี
ู่
่
จนเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๕ กองทัพพม่าของโปสุพลาที่มาอยชวยราชการรกษาเมืองเชยงใหม่ ยก
ั้
ู่
ิ
กองทัพมาตีเมืองลับแลแตก แล้วยกลงมาตเมืองพไชย ตงค่ายอยวัดเอกา พระยาพไชยจัดแจงป้อง
ี
ิ
่
การเมืองอยางเตมความสามารถ แล้วทัพของเจ้าพระยาสุรศรฯก็ยกมาจากเมืองพษณุโลกเข้าตค่าย
็
ี
ิ
ี
17
พม่าจนแตกพ่าย ฝ่ายพม่าจึงถอยทัพกลับไปเมืองเชียงใหม่
ี้
สันนษฐานว่าการยกทัพมาตเมืองลับแลแตกในครงนอาจเกี่ยวข้องกับชอบ้านนามเมืองในพนที่
ั้
ื่
ี
ื้
ิ
ลับแล บริเวณทุ่งกว้างทางทิศตะวันออกของม่อนจำศล เรียกกันว่า “ทุ่งม่าน” ซึ่งคำว่า ม่าน หมายถึง
ี
ชาวพม่า อาจหมายถึงบริเวณทุ่งกว้างแห่งนเป็นที่ตั้งทัพของกองทัพโปสุพลา
ี้
ต่อมาใน สำเนาท้องตราปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๑๗ ฉบับที่ ๕ เจ้าพระยาจักรีบอกหนงสือมาถึงพระ
ั
ศรีสวัสดิ ว่า นายฝองชาวเมืองลับแล หนีมาแต่กองทัพโปสุพลา (เจ้าเมืองเชียงแสน) ให้การว่า พระ
18
เจ้าอังวะเป็นไข้ตาย ลูกพระเจ้าอังวะขึ้นครองราชสมบัติแทน (คือพระเจ้าจิงกูจา)
ิ
เมื่อพจารณาบรบทที่นายฝองชาวเมืองลับแลถูกจับเป็นเชลยไปกับทัพพม่าเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๕
ิ
ั้
ี
ั้
นน แล้วถูกเกณฑไปอยเมืองเชยงแสนซึ่งขณะนนเป็นที่ตงฐานทัพพม่า แล้วหนจากทัพโปสุพลา เมือง
ู่
์
ั้
ี
เชยงแสนลงมานนอาจจะถูกเล่าเป็นความทรงจำของชาวลับแลสมัยหลังว่าบรรพชนของชาวลับแล
ี
ั้
ี
อพยพมาจากเมืองเชยงแสน จนเกิดเป็นการสร้างวาทกรรมเรือง ตำนานเมืองลับแล ของพระครู
่
ั
ี
สิมพลีคณานุยติ ที่ว่าบรรพชนชาวลับแลมาจาก ‘ โยนกสงหนวัตินาคพนธุ์ไชยบุรีศรีเชยง
ิ
ุ
แสน ’
17 พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพระพนรัตน์. หน้า ๓๙๗.
18 พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). หน้า ๑๐๖ – ๑๐๗.
เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
หน้า ๔๓