Page 80 - เมืองลับแล(ง)
P. 80
ึ่
ั
ออก ความงามนนเกิดแตที่สลบซับซ้อน ที่ดินเปนนาไปหนอยหนงแล้วก็ถึงสวน ประ
่
่
ั้
่
เดี๋ยวเปนเนน มีวัดมีไร่ตางๆ ประเดี๋ยวเปนเขาเปนป่าไม้มีห้วยลดเลี้ยวไปตามซอกเขา
ิ
้
้
๋
้
แลเข้าสวนเข้านา ว่าถ้าราษฎรตองการนำก็ทำฝายกันนำประเดียวก็ล้นเข้านา ถ้าที่
สวนนาอยห่างเขาขุดลำรางไปเรียกว่า เหมืองนาสวนไร่ เนินเขาสลับซับซ้อนคั่นกันไป
ู่
ู่
ั้
ุ่
ั
ไม่มีที่สุด จึงดูงามนก เมื่อเที่ยวอยนนถูกฝนตกหนกเปียกชมจนเลยแห้งไปกับตว
ั
ั
้
ู
้
ประมาณไม่ถกว่าสินทางเท่าใด พระอุตรดิฐว่าที่พามานีเปนแต่พอสมควร แต่กระนั้น
ั
ั
ั
่
ยังเมื่อยแย มาถึงบ้านจีนทองอิน เขาชวนให้พกจึงได้หยดพกเพราะเมื่อยนก ลงจาก
ุ
ม้าเกือบก้าวขาไม่ออก จีนทองอินคนน เปนพอค้าจีน หากินทางทำภาษีด้วย เปนคน
่
ี้
้
ู
์
้
เจ้าหนาอยากตอนรบแขก แกจัดลูกไม้หมากพมาเลียง แลเกณฑให้เซนชอในสมุด
้
ื่
ั
ี่
ั
เยยมเยยนด้วย พกหายเหนอยแล้วขึ้นม้ากลับมาที่พก ถึงเวลาบ่าย ๕ โมง ๑๕ นาที
ั
ื่
ี
อยู่นอน
หน้าเศษใบลานพบที่วัดท้องลับแล เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (วันตรุษไทย)
่
่
อ่านวา : วัดสรีปงสนุกแก้วกว้าง ตั้งอยู่ทาน้ำ กลางเวียงลับแลง
เป็นไปได้ว่า วัดบ้านนาโป่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ จะตรงกับ วัดศรีปงสนุก เนื่องจากโบราณสถานวัดนาโป่งนี้
ตั้งอยู่ริมน้ำแม่พร่อง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของวัดท้องลับแล ต่อมาเมื่อสิ้นสภาพเป็นวัดร้างใบลานของวัด
ได้ถูกนำมาเก็บรักษาที่วัดท้องลับแล อนึ่งบริเวณตำบลฝายหลวงแต่เดิมเรียกว่า ‘ตำบลนาโป่ง’
ชื่อ ‘ปงสนุก’ จึงเพี้ยนเป็น ‘นาโป่ง’ หรือ ‘นาปง’ ก็เรียก
เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
หน้า ๖๘