Page 203 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 203

ุ
               เป็นหลมลึกได้วากว้างได้ศอก มอกปองาม ก็สะบัดเอายังเขาคำแห่งตัวลงยายวางก้นหลุม แลปากกาบผะอูบคำ
                                                   ิ
               จุธาตุนั้นลงวางหว่างเขาคำแห่งตัวแล้วถมดนฝังผะอูบนั้นไว่ได้พอค่ำ พญาฟานก็เสี้ยงใจตาย องคำพุทธเจ้าจึง
                                                                                                        ั
               จ๋าว่าดูรา อานันต๊ะเจ้าเหย ปายหน้า วันตกลับดอยที่นี้ ฝูงคนทั้งหลายจักมาตั้งอยู่ปลายหน้าจักได้ชื่อว่าเวียงลบ
               แลไจยจะแหล  ่


                                                                                                     ั
                       ยามเถิง องค์คำพุทธเจ้านิปปานไปแล้วนับพุทธศักราชได้ ๑๖๐๐ ปี วันนั้นมีชาวกะลอมสองคนผวเมีย
               จากเมืองตักกะสีลานคราลุ่มฟ้าเมืองใต้ ได้มาปุกบ้านสร้างเวียงแห่งนี้ แลกำเนิดเกิดเชื้อเครือสาย ยายแผ่เป็น

                          ้
               เวียง แต่บ่ไดนบไหว้น้อมรับยังศาสนาแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตนผ่องแผ้วใสบัวริสุท ด้วยมีใจใฝ่มักในอธัมม์
               มืดบอด เป็นทุรชนคนยักษ์บ่ตั้งใจสัตยธัมม์อันใส ก็บังเกิดเหตุเภสภัยอันใหญ่หลวงด้วยปู่เจ้าเกล๊าผีแลอินทร์

               พรหมยมราชะทั้งหลาย ก็ได้เล็งหันยังอัปรีวิโยค อกุศลจึ่งเนรมิตฝนหลวงวงช้างปั๋นถมจมหาย ลางพ่องก็ตาย

               ลางผ่องก็หายจมดินสูนมูนทรายม่อนดอยหล่มจมม้าง บ้านเวียงล่มจมหายฝูงคนหนีตายยายหยาด ละเป็นบ้าน
                                                                                               ้
                                                                               ื
               ห่างร้างเวียง นับล่วงได้ ๑๐๐ ปีข้าว กาละล่วงยังมีพุทธมานพหนุ่มองค์งามผู้สบเกล๊าเจ้าเครือปู่ทาวลาวจกตน
               ไต่เกิ๋นคำ ก็นำฝูงคนทั้งหลาย เดนลัดดอยลอยห้วยข้ามโขงเขตน้ำ เขตน้ำเขตดอย มาเถิงยังข่วงอันงามริมตาฝง
                                                                                                         ั่
                                          ิ
                                                                                                ่
                                                              ุ
               แม่น้ำยมออน มีปุกบ้านสร้างเวียง ใส่ชื่อว่าเวียงคำน้ำใสสโขไธยใหญ่กว้าง สืบเจ้าช้างมากหลายแผวงยายใหญ่
               น้อย เถิงยังขุนหอคำเมืองไธยตนเป็นใหญ่ใต้ฟ้า คนลุ่มหล้านบยำ ขุนองค์คำรามราชเจา ก็ได้เล็งหันยังข่วงงาม
                                                                                      ้
               หว่างน้ำตาฝั่งหาสาขา น้ำแม่น่านคนที แลน้ำแม่ยมออน มีดอยเกล๊าปู่เจ้าเขาเหิน ม่อนดอยเนินระสี น้ำแม่ห้วย

               แก้วจุมปู แลน้ำแม่ห้วยทรายคำโอบล้อม หนองสระหนอง แลข่วงก่อนบ่อนนี้แต่เดิมออนก็ยังเป็นเวียงเก่าเจ้า
               ร้าง เวียงทะรากสร้างแตหนหลัง ก็มีใจใคร่แผสายยายเวียง แลหันว่าเปิงแก่การปลกกลาหว่านข้าว ดวยน้ำทา
                                    ่
                                                     ่
                                                                                       ้
                                                                                   ู
                                                                                                         ่
                                                                                                  ้
                                                                                          ่
               บัวริบูร จึงได้เทครัวฝูงจาวคนเวียงไธยมาปุกแป๋งแต่งเวียง แลใส่ชื่อว่า เวียงสระหลวง จักสงข้าวปลาแลหมาก
               พลู เลี้ยงต้อนเวียงไธยในยามนั้นขุนพระญารามราชเจา ก็เถิ่งยังพุทธาพินิหาร อันธาตุเจ้าองค์คำหมายมีพญา
                                                            ้
                                                                                           ุ
               ฟานคำลับเสี้ยงใจตายฝังไว้หว่างเขาคำนั้น ก็สะดับเถิงยังปาระมีแห่งพระญาตนวิเสก ก็ลอยผดขึ้นยังใจข่วงแล
               ลอยเหินผัดขึ้นวันเหนือล่องใต้สามหน แลลอยจมลงยังแม่แผ่นดิน ขุนพระญารามเจ้าจึ่งมีใจแป๋งแต่งสร้างยัง
                                                                    ์
               พิหารสายดือ เวียงเป็นไจยเวียง  กาละล่วงไปเถิงยังตนขุนองคคำลิไธยตนเป็นใหญ่โลกหล้า แลยกเวียงสระ
               หลวงขึ้นกับเวียงชะเลยง แล้วจึ่งได้ผาถะนายังพระศาสนาองค์พระพุทธเจาน้อมนำเอากระดูกเจาธาตคำลกมา
                                 ี
                                                                                              ้
                                                                            ้
                                                                                                      ุ
                                                                                                  ุ
               แต่ในเวียงไธยจึงได้มาแป๋งแต่งสร้างยังองค์พระธาตเจ้าเจติยา ตั้งอารามพิหารใหญ่กว้าง บนม่อนป่าแก้วดอย
                                                          ุ
               งาม ชื่อว่าเจติยะพิหารอารามคีรีเขต แลฟื้นวัดห่างร้างฝูง ทำนุพระศาสนา ชาวพาราลุ่มใต้มีสุขค่ำเช้าเข้าคืน
               ข้าวเกล้าในนาบัวริบูรพรั่งพร้อม หมากป้าวจาวตาลกิ้งก้อมดกดาด ฝูงสัตว์ตัวกาจตัวหนา ฝูงช้างม้าก็มีมาก นั่น
               แล


                       ลุเถิง ยังขุนองค์คำพระญาไสลือไธยผู้เป็นใหญ่บนด้าว เจ้าเวียงไธย ได้รับตราบอกใบ ลุกมาแต่เจา
                                                                                                         ้
               ต๋นยี่กวามแก้ววงเมือง พระเจ้าเวียงเชียงรายขอกุมพลเศิกขึ้นเหนือลุเถิงยังเขตแคว้นล้านนา ทัสสะลักขะเขตตา



                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๕๓
   198   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208