Page 207 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 207

้
                                                                                                  ่
               เวียงแลก้ำพระศาสนา จะแล ข้างฝ่ายตนพระญาเจาช้างเวียงลับแลงไชยเวียงเชียงใหม่แก้วกว้างก็แตงเวียงแล
               ก้ำพระศาสนา ทะรงส่งหื้อ หาญคำลือ หาญคงแสน ๒ เสนาอำมาต ได้ปงฝูงคนเข้าแต่งสร้าง แป๋งพิหารใหม่วัด
               ช้างแล่นหัวข่วง ด้วยอารามหลักเก่าต้องไฟฟื้นเหล้มกล้าหลวงไหม้ม้างลง แล ๒ หาญตนกล้าก็ยอขันยก ๒ นาง

                                                                          ้
               บุดตาได้ นางสุคันธา บุดตาเจ้าหาญคำลือ แลได้ นางสรีปิมปา บุดตาเจาหาญคงแสนขึ้นนั่งผาสาดแก้ววิวาหะ
               คำ ร่วมไขว่ขันผีปู่ย่าพระญาเจ้า กาละนั้น ตนพระญาเจ้าช้างเวียงลับแลงไจยตนเป็นใหญ่ในจุมปูหล้า ก็ทะรง
                                               ้
               ยุรยาตรลีลาสรเด็ดมายังแหย่งคำหลังชางปู้ลวงคำ ตนทะรงเครื่องสะง้าอะลังการสุบกะจุมหัวคำแก้วน้ำแดงก้อ
               แวด กุมดาบเถี่ยนกล้าสรีกัญไจยฝักคำสุบเกิบคำงวงงอน ตนทะรงผ้านุ่งตุ้มงามอย่างวิเสก สีขาวปอนปองาม

               ปาดสายสะเทิ้มสร้อยตัวสังวาล แลเครื่องค้าวมาวจ๋าวแขน สุบแหวนธำมะรงวงใส สอดลานคำขะจอรหูงามดง
                                                                                                         ั่
               องค์อินตาเรื่องธิราชสรเด็ดบนหลังพญาช้างเอราวัณลอยเฟือนไหวมาในผาสาดคำเวียงบนชั้นฟ้าตาละติงสา นั้น

               แล ฝ่ายสองนางเทวีหน่อไท้นางเวียงไจยลับแลงแก้วกว้าง ก็ทะรงเครื่องหย้องปองาม เหนบปิ่นคำดารดาษสอด

               เกี้ยวกอดดอกไม้บุปผานานา ทั้งเกดถะวา สะบันงาเมืองใต้ ดอกป้าวขาวปาน ดอกขะจอนหอมไก๋ สองนางไท ้
                                                                             ้
                                                                                                      ั
               เทวีเวียง ก็ทะนงเครื่องนุ่งงามสะง้า สว้านผ้าสองชั้น ผ้าตาฝั่งเครือไหมแลผาเครือใยแขกเทศ นางเวียงสคนธา
                                                                                                     ุ
               สว้านสีแดงกุมดำ นางเวียง สรีปิมปาสว้านสีคำจำปากุมยอดตอง งามผุดผ่องส่องใส่ แลแม่นางเวียงก็ทะรงนุ่ง
               สิ้นไหมไกปั่นคำสีซิ่วหนาตาเหล้ม ต่อตีนจกหลายหงษาตัวคำ มีปีกหงอนลงฟ้าเหล้นกับจ่อนาคลายเครือ แล
               นางทะรงสุบสายสะเทิ้มสร้อยสังวาน ม้าวแขนข้อมือ นิ้วกุมสุบแหวนกุแม่ งามดั่งนางเทวีอันลุกมาแต่ชั้นฟ้า

               เมืองบน แลกะบวนช้างม้า หนาหนำ ฝูงชาวฟ้อนนางหลายหุมแห่ ยกย่างย้ายแอ่นแขน ลีลาดั่งมฤคาฟานหก

               โดด งามดั่งงวงช้างน้อยโกดแก้วแสง งามดั่งแผงหางมยุระบังวันอ่อนไกว งามดั่งหางเล็นหางไหนขอดบ้วงไหล
                                                                                                 ้
               ปองาม ชาวปี่นนถีเปี๊ยะก๋องกังสะดาร ตบทะรงช้างออกเลียบข่วงเดินเวียง ชาวคนทั้งหลายก็ชมชื่นชอยโสมนัส
               ยินดีมากนัก ทั้งเวียงแจ้งใสหอมรื่น หอมหื่นลอยไกล ยังเรือนคำชั้นฟ้านั้นแล ค่ำวันนั้นเกิดเหตุอุบาทะวะอสนีย
                                                                                                       ุ
                                                                                    ้
               บาทฟาดวะไฟใหม้โฮงหลวงพิหารพระเจ้ายอดคำติ๊บวัดแลหลวงชาวข้าวัดดบแก้ได แลมีใบท้องตราแจ้งว่าพล
                                                                              ั
               เศิกแค่ชาวฮ่อยพลลงเขตเวียงพิงคนทีหนเหนือ ตนพระญาติโลกะราชาฟ้าฮ่ามพระเจ้าช้างตนหลวงก็แต่งพล
                                                              ้
               เศิกยกขึ้นเวียง แต่ก่อนวันขึ้นได้ทะรงเถิงยังองค์สังฆาธุเจา ตั้งราชวัตรฉัตรตุง ส่งสืบชะตาเวียงตามแนวไจยมง
               คลาสถานประตูผ่านเวียง หนเหนือ ประตูหัวข่วง ธุเจ้าวัดใหม่ช้างแล่นหัวข่วงรับตั้ง ๑ หนวันออกประตูผา
                                                                                                   ู
               แก้วธุเจ้าวัดเจติยะพิหารรับตั้ง ๑ หนใต้ประตูสวนดอกสัก ธุเจ้าวัดบุปผารามรับตั้ง ๑ หนวันตก ประตทาดอก
                                                                                                     ่
               ป้านธุเจ้าวัดมหาวันน้ำล้อมรับตั้ง ๑ แล ประตูท่าช้าง ธุเจ้าวัดแลงหลวงรับตั้ง ๑ ก็สมเร็ดดั่งใจหมาย จึ่งแตง
                                                                                                         ่
               หาญคำลือ แลหาญคงเสน กุมเวียง แลหื้อขึ้นแก่เวียงเชียงชื่น ตกแก่เจ้าหมื่นด้งนคร จากนั้นตนพญาก็ขึ้นหลง
                                                                                                         ั
               ช้างเบิกพลขึ้นเวียงพิงคนที



                       วันนั้นถัดมารอดเถิงปีกาบสะง้า จุลศักราชนับได้ ๘๓๖ ตัว นับศาสนาล่วงได้ ๒๐๑๗ ปีแล้ว อี่บัวเมีย
                                                                                                        ั
                                                                                                    ื
               อ้ายหนานตาดชาวเมืองลบแลงไจยได้ลกเสือไฟตาบ่แตกมาตัว แลเลี้ยงป้อนหื้อนมจากเตาสองกันลกเสอไฟตว
                                               ู
                                    ั
                                                                                        ้
                                                                                                ู
                                                                                                       ุ
                                                                                                  ้
                                            ุ
                                                                                        ู
               กล้าดูดกินน้ำนมแลขบหัวนมอีบัวปด แลขบคอกินตาย เหตุตกขึด แลเจ้าหมื่นด้งฅนเฒ่าถกประหารดวยเหตว่า
                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๕๗
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212