Page 211 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 211

ี
                                                     ่
               ต ำนำนพระเจ้ำยอดค ำทิพย์  ฉบับท ๒

                                                                                                     ื
                                                                     ื
                                                      ั
                       คณะทำงานศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลบแลได้พยายามสบค้นที่มาของเมืองลับแล ซึ่งไดทำการสบคน
                                                                                              ้
                                                                                                        ้
               ข้อมูลต่างๆ จากการกล่าวอ้างจากตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์ ทางคณะฯ ได้พยายามสืบค้นต้นฉบับธัมม์เก่า
               ของตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์ก่อนถูกแปลปริวรรตแต่ก็ยังไม่พบ จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ ตุลาคม  พ.ศ.
               ๒๕๖๑  ทันตแพทย์ภัทรภูมินทร์  ชัยชมภู, นายดาบฟ้า  ไชยลับแลง, นายฉัตรชัย  แว่นตา  ได้เดินทางมาทวัด
                                                                                                       ี่
               ท้องลับแลเพื่อค้นหาลานธัมม์ต้นฉบับอีกครั้งบนกุฏิเก่า

                       เมื่อขึ้นมาบนกุฏิเก่าชั้น ๒ มีตู้พระไตรปิฎกอยู่ ทันตแพทย์ภัทรภูมินทร์  ชัยชมภู เห็นเป็น

                                                                                                     ื่
               สี่เหลี่ยมผืนผ้าคิดว่าเป็นกรอบรูป นายฉัตรชัย  แว่นตา จึงเขาไปหยิบขึ้นมาปรากฏว่าเป็นแฟ้มกระดาษสอการ
               เรียน เมื่อเปิดแฟ้มเอกสารพบใบสมัครลูกเสือจำนวน ๑๐ ใบ จากนั้นเป็นกระดาษสมุด ขนาด F๔ เป็นลายยันต ์

               แบบล้านนาที่ใช้เขียนกระดาษสาพันกับไส้เทียนจุดบูชาพระพุทธรูป จำนวน ๖ หน้า ถัดไปในหน้าที่ ๗ จึงพบว่า

               เป็น “ตำนานฉบับเก๊า พระเจ้ายอดคำทิพย์ วัดลับแลงหลวง” เขียนด้วยดินสอจำนวน ๑๔ หน้า จึงถือเป็น
               การค้นพบเอกสารตำนานฯ เป็นครั้งที่ ๒ เพื่อความเข้าใจจึงเรียกตำนานฯ ฉบับนี้เป็นฉบับที่ ๒

                                                         ู้
                       เมื่อพิจารณาพบว่าฉบับที่ ๒ เป็นลายมือผใหญ่ (อายุของลายมือชวง พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๓๐)  ในดาน
                                                                                                       ้
                                                                            ่
               สำนวน คล้องจองไพเราะ เชื่อมเป็นตามฉันทลักษณ์ของ “ร่าย” หรือ “ค่าวธัมม์” มากกว่าฉบับที่ ๑ ส่วนฉบับ
               ที่ ๑ ฉบับตัวเขียนดินสอเป็นลายมือเด็ก (วัยรุ่น) มักใช้คำซ้ำ มีบางช่วงเนื้อหาตกหล่นหายไปจากเนื้อความใน

               ฉบับที่ ๒ ส่วนในฉบับที่ ๒ เนื้อความตอนที่พระแม่กุแข็งเมืองเชียงใหม่ต่อพม่านั้นไม่มี และเรื่องเจ้าสองเรือน

               (เจ้าเมืองลับแลงไชย) สมโภชอารักษ์เมืองลับแลงไชย ไม่มีการบรรยายถึงบรรยากาศภาพพจน์ในงานนั้น เป็น
               ต้น
































                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๖๑
   206   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216