Page 214 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 214

ต ำนำนฉบับเก๊ำ

                                                            ๊
                                          พระเจ้ำยอดฅ ำติบ วัดลับแลงหลวง



                       นะโม ตัสสัตถุ ที่นี้จักกล่าวเป็นตำนานพระต๋นองค์ฅำมุนีเจ้ายอดฅำติ๊บ เวียงลับแลงไชยนคราแก้วกว้าง

               เพื่อพระมหาโพธิสัตว์พุทธเจ้าต๋นเสด็จยังเมืองสาวัตถี เพื่อองค์คำพุทธเจ้าตรัสรู้แจ้งแสงใสในพระสรพัญญูได ้
               แล้ว ๒๕ ปี๋ข้าว ในคืนหนึ่งนั้น ต๋นฅำพุทธเจ้านอนในกุฎีแก้วในเชตะวันพิหาร ยามจะใกล้ค่ำลงแลงจึงร่ำเปิง

                                                                                                       ู้
               ออกจ๋าว่า บัดนี้ตัวผู้ข้าอายุได้ ๖๐ ปี๋ข้าวมานี้แล้ว  แลเมื่อหากนับอายุได้ ๘๐ ปี๋ข้าว  ก็จักนิพพานไป ควรกูผข้า
               จักผาทะนาธาตุออกย่อยผุก หื้อคนแลเทวดา แลฝูงสัตว์จุอั๋นเป็นที่นบไหว้ปู่จา  เสมอต๋นกูผู้ข้า เมื่อยังทะรง
                                                                                                   ๊
                                                                                                      ้
               สงสารนี้เถิด เมื่อนั้นองค์ฅำพุทธโคตมเจ้าตนเกล๊ามหาขูณา กันล่วงออกยังพรรษาแล้วก็พามหาอานันตะเจาแล
               พระอินตนต๋นพญาก็ออกข่วงก๋างจ้อง  แก้วก้านคำเกิ้งบังยังพระพุทธเจ้า เสด็จยังจุมปูสถานหนใต้ ใต้ปิงคนาคร

                                                                                             ั่
               ห่อนลงมายังใต้เวียงเขลางค์  แลเวียงพลนคร มาเถิงหว่างตาฝั่งวันตกน้ำน่านมหาคณที แลตาฝงวันออกน้ำยม
               ออน  เถิงยังดินแดนดงไม้ป่ากว้างช้างหลาย มีสายน้ำใสไหลเย็นจ้อยหอมหื่นชื่นใจ ไหลจากดอยหนเหนือ ชื่อว่า

                                                                   ี
               แม่ห้วยแก้วจุมปู  แลน้ำแม่ห้วยทรายฅำไหลลงดอยปู่เจ้าเกลาผม่อนระสใหญ่กว้าง ยังมีพญาฟานฅำ  ตวหนึ่ง
                                                                 ๊
                                                                           ี
                                                                                                     ั๋
               เป็นเจ้าแก่ฝูงฟานใหญ่น้อยทงหลาย ชื่อว่า พญากันจะนะ ก็ทะรงสีลาเดินอว่ายร่ายเรียงเอียงเขาเข้าเล็มตาม
                                        ั้
               หมู่ยอดหญ้าดอยเหิน เสด็จเดินเยาะย่างย้ายมามอบขาบไหว้  สาคำนบคบยังต๋นองค์ฅำพุทธเจ้า พญาฟานฅำ
               ตั๋วกล้า ได้จ๋าถาม  ยังองค์ฅำว่า ผู้ข้าขอวันทายังต๋นพญาเหนือเกล๊าต๋นทเปิ้งแห่งฝูงสัตว์ทั้งหลาย ยามนี้ข้าข้อย
                                                                          ี่
                                       ้
                                    ้
                                                                                            ั
                                                            ู้
               จักได้ขอหื้อองค์ฅำพุทธเจาไดเมตตาผายโผดยังฝูงหมู่ผข้าทั้งหลาย เหตุว่า มียักษาตัวหานมันจกมาเบียดรานบี
                                                                                                 ้
                                                                                               ุ
               ทาจักนีบฆ่าฝูงข้าต๋ายคว่ำ ฝูงแม่แลปั๊ดฝูงลูก ฝูงผัวแลปั๊ดฝูงเมีย ขอองค์ฅำพุทธเจ้าจุ่ง  ยกปั๋นธาตเจาไว้เป็นสรี
               หมายแนวเกิ้งภัยพาลายักษี แลยักษา ทั้งหมู่มาราบ่มาเบียดใกล้ ขอองค์ฅำต๋นใส จุ่งอิ่นดู ฝูงหมู่ผู้ข้า องค์ฅำ
                           ั
                                                                                             ู
               พุทธเจ้าได้สดบรับฟังกำฟู่จ๋าแห่งพญาฟานฅำตั๋วนั้น ก็มีใจหลิ่งน้อมเมตตา จิ่งได้ตรัสรับสงว่า ดรา พญามฤคา
                                                                                        ั่
               เขาคำเหย กันสูเจ้าเลามา ตั๋วกูผู้ข้าพุทธเจ้าก็จักยินดในมฤคยวัน  หาขาบไหว้แห่งเจา แลอิ่นดขูนายิ่งนัก เหต ุ
                                                                                             ู
                                                                 ี
                                                           ี
                                                                                    ้
                                 ่
                                                                                        ั
                                                                                                 ้
                                                                                               ุ
               จักเป็นทุกขาย้อนเหตุภัยอนตวาย  แห่งฝูงยักษาแลมาราทั้งปวง ตั๋วกูผู้ข้าพระพุทธเจาก็จกยกธาตเจาป๋งปั๋นไว้
                                                                                     ้
               ป้องกันเหตุภัยพาลา ครานั้นมหาอานันต๊ะ ก็มีเหตุวิตกในมะนะหรทัย  ยิ่ง เหตุว่าหากธาตุเจ้าได้เถิงยังพญา
                                                                                                 ่
                             ุ
                                                                                           ้
               ฟานฅำแล้ว ธาตเจ้านั้นจักบ่มีผู้ใดมาอุปัตถากดูแล ด้วยว่าพญาฟานฅำตั๋วนั้นก็จักหากินเช้าเขาแลงคำ บ่มีใจใส ่
               ดูแลตามเหตุแห่งฝูงสัตว์นั้น  ฝ่ายพระอินตาต๋นพญา ต๋นก๋างจ้องแก้วฅำก็ได้ออกปากตกกำว่า ตั๋วผู้ข้านี้จักขอ
               อยู่ดูเฝ้าก้อนธาตุเจ้าสืบไป  แลจักกอยเฝ้าบังยังหมู่ฝูงหมู่ฝูงฟานฅำนี้ สืบไปปายหน้า

                                                                                                     ้
                       ยามนั้นองค์ฅำพุทธเจ้าก็ได้จ๋าถ้อยมีว่า ดูราอานันต๊ะเจ้าเหย อินตาเจ้าเหย แลกันจะนะฟานฅำเจาเหย
               ขอเจ้าทั้งสามอย่าได้วิตกหมองใจ สืบไปปายหน้าจักมีตนพญาผู้ยังมีปารมีแก้ว จักได้มาสืบ ก้ำจู พระธาตุเจ้า
                                                                                                         ั่
               สืบไป จ๋าแล้วจึ่งยกธาตุเจ้านั้นหื้อกับกันจะนะฟานฅำ พญาอินตาจึงเสกข์มายังผะอูบฅำอันน้อย มีวรรณงามดง


                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๖๔
   209   210   211   212   213   214   215   216   217   218   219