Page 216 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 216

้
                                                                                            ื
               อารามคีรีเขต”  แลฟื้นวัดห่างร้างฝูง ทำนุพระศาสนา ชาวพารามล่มใต้ มีสุขสันต์ค่ำเช้าเข้าฅน ข้าวกลาในนา
               บัวริบูรพรั่งพร้อม หมากป้าวจาวตาลกิ่งก้อมดกดาด ฝูงสัตว์ตัวกาจตัวหนา ฝูงช้างม้าก็มีมากนัก นั่นแล


                       ลุเถิง ยังขุนองค์ฅำพระญาไสลือไธย  ผู้เป็นใหญ่บนด้าวเจ้าเวียงไธย ได้รับตราบอกใบลุกมาแต่เจ้าต ๋

                                                                                           ั
                                                                                                ั
               นยี่กวามแก้ววงเมือง พระเจ้าเวียงเชียงราย ขอกุมพลเศิกขึ้นเหนือ ลุเถิงยังเขตแคว้นล้านนาทสสะลกขะเขตตา
                             ี
                                                                                                ้
                                                                                           ้
               บุรีสะหรีคณทีเชยงใหม่ จักขอกินเวียง แต่ถูกกลเศิกพระเจาเชยงใหม่  พระญาเวียงไธยจึ่งไดขอเจายี่กุมกวาม
                                                                  ี
                                                                ้
               แก้ววงเมืองเชียงราย คืนปิ๊กป๊อกออกจากเวียงล่องลงใต้ แลกวาดเทครัวชาวเชียงรายลงเสี้ยงเวียง

                       เหตุปีข้าวนั้นมีกาละวิบากกวากขึด ช้างแม่งาออนเกิดลูกตายสองงวงร่วมตว แลชาวเวียงก็ชิงกินซาก
                                                                                    ั
               ผิดเภทต้องภัย เหตุบ่ตั้งในศีล บ่กินในธัมม์พระเจ้า ผีป่าผีซากเข้าสิงเวียง น้ำแม่ปั้ดม่อนดอยพังฝงชาวไธยสระ
                                                                                              ู
               หนองหลวงจมตายเป็นบ้ามีมาก เจ้าพระญาเวียงไธยจึ่งเทชาวเชียงรายใส่ไว้ในเวียงสระหนองหลวงนั้น แลยก
               เอาเจ้ายี่กุมกวามแก้ววงเมืองตนพระญานั่งเวียง เจ้าพระญาแก้ววงเมืองยี่กุมกวามจึ่งสั่งฝูงชาวเวียงทั้งหลาย

               แต่งเวียงป้านคันน้ำหนองฝายแผบ้านแลอารามกุมหนอง แลยกยกพิหารอันรวมทั้งหลายในโขงแคว้นเขตเวียง

               สืบสัณฐานดั่งหอยสังข์ไจยมงคล มาใส่ไว้ที่เวียงซากสระหนองหลวง หว่างห้วยทะราก  แก้วแม่จุมปู แลยกเอา
                                                                                                       ุ
               สระหนองหลวงเป็นดั่งปากขุมขอนสังข์ ยกเอาอารามพิหารใหญ่เปนแนวสมาเขตเวียง หื้อน้ำแม่ห้วยแก้วจมปู
                                                                      ็
                                                                            ี
               ไหลผ่าน แลน้ำแม่ห้วยทรายคำไหลล้อม  หนวันออก มีเจติยะพิหารอารามเป็นแนว  หนเหนือ  มีวัดช้างแล่น
               หัวข่วงสีมาราม แลริมตาฝั่งน้ำแม่ห้วยแก้วจุมปูเขตนาป่าส้มป่อง ป่าหมาก หนามทูนเรียน มีนาป่าโป่ง วัดเช
               ตะวันพิหาร หนวันตกเบื้องเหนือ  มีวัดป่าไม้แดง ถัดล่องลงอว่ายวันตกมาแลเป็นวัดเวฬุวันพิหารป่าไผ่  ลัดล่อง

               มายังหนวันตก  เป็นวัดตาละนาลิเกระม่อนป่าป้าว ป่าตาล จำบอน แลม่อนระสีดอยกั้ง แลม่อนเกล๊าปู่เจาดอย
                                                                                                     ้
               สูงเป็นเขตบังยัง  วันตก  ถัดวนล่องริไปหนวันตกเบื้องใต้  มีวัดพนมม่อนสมอพิหารปงจำน้ำ  แลหนใต้ นั้นมีวัด
                                                     ้
               มหาวันพิหาร ข่วงน้ำล้อม  แลสันดอยเกล๊าเจาปู่เป็นแนวตุ้มเวียง ถัดมาเป็น วัดบุปผาอาราม ถัดวนขึ้นไปจบ
               หนวันออกเบื้องใต้  มีหอไต้ แลก๋างเวียงมีพิหารสายดือเวียงเป็นไจยเวียง ริมตาฝั่งหนองสระหลวง นั้นแล

                                                                                              ี
                       กาละล่วงเถิงพระญามหาธัมมะปาละ  ผู้เป็นใหญ่ในเวียงไจยสุโขไธยแก้วกว้าง บ่ตั้งในศลธัมม์กำสอน
               บ่ค้ำชูพระศาสนาชาวพาราได้ยาก ข้าวนาตายผากตายพาย ฝูงวัวควายยากไร้ได้ห่าฝูงขุนหมื่นชายหาญก็แตก

               เป็นเหล่าเป็นหมู่ แลยังถูกเวียงไธย เวียงกะลอมใต้โลกหล้า เวียงสะหรีโยธิยาใหญ่กว้าง เวียงนากว้างชางหลาย
                                                                                                   ้
               ได้แผ่ผายกุมเวียงไจยสุโขไธย ฝ่ายพระญาใต้เจ้าสามตนเป็นใหญ่สะหรีโยธิยาก็พลเสิกเข้าตีต่อกับเวียงคณท ี
                                                                                                        ้
               เชียงใหม่เป็นกำลังด้วยขุนแสเจาเมืองเทิงเป็นเหตุ  แต่ก็ต้องกลเศิก พระญาติโลกะมหาราชาฟ้าฮ่ามตนเจาชาง
                                       ่
                                         ้
                                                                                                     ้
                                                     ้
               เวียงพิงคณทีแตกหนีในยามนั้น  พระญาใต้ไดเจ็บตายปลงลงป่า ตนพระยาไตรโลกะนารทเข้าบำราบนั่งเวียง
               พระญายุธิถิระตนนั่งเวียงเชลียง  เอาใจออกห่างหักค่ายกุมพลชายหาญขึ้นนบไหว้ยังพระญาติโลกะมหาราชา
                                                                                                      ั
               เจ้าฟ้าฮ่ามตนเจ้าช้างเวียงพิงคณที ฝ่ายตนเป็นใหญ่เวียงไธยใต้หล้าสะหรีโยธิยาไตรโลก ขึงโขดโกธาสั่งตดหัว
               เจ้ากรมการเวียงนับสิบ แลสั่งพลชายหาญล่าขึ้นตามตีเข้าเขตแคว้นแดนพระเจ้าเชียงใหม่ แต่บ่ทันหนีแตกคืน



                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๖๖
   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221