Page 217 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 217

้
                       ฝ่ายพระญาติโลกะมหาราชาเจ้าฟ้าฮ่ามตนเจาช้างเวียงพิงคณที ตนองค์ฅำวิเสดใสก็มีใจใคร่ก้ำชูพระ
                                                                                                   ั
                                                                                  ้
                                 ุ่
                                     ้
               ศาสนา แลชาวพาราลมใตด้วยทสธัมม์ ในตนมหาราชาเป็นเจ้าด้วยพระญาไธยใตมัวเมาในอกุศลธัมม์ตวหมอง
               จึ่งได้ยกพลเศิกจากล้านนาพิงคณเขต ลงมาย่างย่ำตีเศิกรบเอาเวียงไธย

                       ฝ่ายพระญาแก้วกุ้มหล้าตนลูกผู้เกิดแต่นางเวียงหน่อฅำเทวี ธิดาเจ้าเมืองแสนหวี แลพระญายี่กุมกวาม
                                                                                                        ิ
               แก้ววงเมืองขึ้นนั่งเวียงสระหนองหลวงก็จำนบคบไหว้ยังพระญาใต้เมืองสะหรีโยธิยาตนนั้น แลจำสั่งแตงพลเศก
                                                                                                   ่
                                                                                          ้
                                                                                        ้
                                                                                                       ี
               จายหาญออกสู้เศิกพระญาเวียงพิงคณที  ในยามนั้นพระญาติโลกะมหาราชาฟ้าฮ่ามตนเจาชางเวียงพิงคณทยก
               พลเศิกมานักหนาหนำ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูร ลำปาง แพร่ แลเจ้าลาวพระบาง นับแต่ควันบุกขี้ฝุ่นกุ้
               มลอยบังบดแสงตาวันยามตอนได้ล่วง ๘๑๓ ตัว ศาสนาล่วงไปแล้วพุทธศักราชได้ ๑๙๙๔ ปี ในปีรวงเม็ด เดอน
                                                                                                       ื
               ๖ เหนือเป็ง ๑๐ ฅ่ำ ยามตะวันลับลงแลง ฟ้าฮ่ามแดงดั่งสีผ้าบันธุกัมพะอินตา ดั่งเตวดาลงมายายผ้าแดงงาม

               หยาดจากฟ้าสวาดลงดินรอรับต้อนพลเศิกช้างม้า เสนาหลวงหลายก็ย่ำเถิงยังเขตแคว้นเวียงสระหนองหลวง
                                                                                      ิ
                                                                                         ้
                              ุ
               เป็นเหตุอันวิเสกสกใส ชาวเวียงสระหนองก็พากันไห้ห่มขวัญกลว ตนพระญาก็สั่งพลเศกเขาลอมตเอาเวียงตน
                                                                                            ้
                                                                                                ี
                                                                   ั
               แก้วกุ้มหล้า พระญาเวียงหนองก็กุมพลเข้าสู้ใคว่นับข้าวได้ ๒ วัน ฝูงชายหาญพลเศิกแลชาวเวียงก็วำวายตาย
               ละเรือนนอนโฮงหอ แลพิหารอารามใหญ่น้อยก็ไหม้หมองต้องเหล้มปืนไฟอันไหล่ดั่งห่าฝน  ฝ่ายตนองค์ฅำ
               พระญาเชียงใหม่ก็มีใจอิ่นดูขูณาด้วยชาวพาราใหญ่น้อยทั้งหลายก็ล้วนด้วยสืบสายเครือเชื้อชาวโยนเถิงกัน
               ด้วยว่าแล้วชาวพาราทั้งหลายลุกมาแต่เวียงเชียงรายหนเหนือ แลเวียงละกอร ม่อนข้าง นับแต่ถูกม้างกวาดเท

               ลงมา ก็พากันร่ำเปิง ไห้  วอนระวิงว่าพี่จำห่างน้อง พ่อจำห่างแม่อาวจำห่างหลาน กับทั้งตนเจ้าเกล๊ากุมหัวก็
               ล้วนเป็นแต่ญาติวงศา จึ่งสั่งหมื่นด้งเจ้าเมืองละกอรแต่งพลเศิกดาบให้มั่นนับได้ ๕๐ คน ตีฝ่าหักด่านกุมเวียง

               เข้าโจมจับกุมเอาเจ้าแก้วกุ้มหล้าแลญาติวงศามากระทำสัตย์สาบานสืบเชื้อเครือสาย เดือน ๖ เหนือ เป็ง ๑๓

               ค่ำ  ก็เข้าได้เวียง ตนพระญาฟ้าฮ่ามเจ้าช้างติโลกะมหาราชา จึ่งยั้งตั้งพลเศิกบนดอยม่อนเชียงแก้วเจตยะพิหาร
                                                                                                  ิ
               อารามเชียงพระธาตุ   เถิงยามเดก ตนฅำเจ้าช้างเวียงพิงคณที ก็ทะรงสุบินนิมิตฝันเถิงยังพายตนพระญายี่กุม
                                           ิ
               กวามแก้ววงเมือง ยืนร่ำไห้แลออกปากจาว่า “ตัวข้านี้หนีละจากเวียงมาด้วยใจบ่ตั้งในศีล บ่กินอยู่ในธัมม์

               กระทำการอันทุกรขีณา เถิงยังญาติวงศาพี่น้องแลชาวพารารุ่มใต้ ฝูงเขาทั้งหลายก็พากันจ่มแช่งด่าเคียดโกธา
                                       ั
               นั่นบ้า เป็นทุกขตะกัมม์ติดตวข้านี้สืบมา แม้นว่าตัวข้านี้จักกระทำการอันเป็นกุศลทั้งหลายก็จักบ่สมเร็ดดั่งใจ
               หมาย ยามตกวำตายคว่ำหน้า ก็วนเวียนสังขารานุจิตตาอยู่ในบ่วงอบาย ตกเป็นพายเฝ้าเวียง   ทุกรณีขา

               ทรมาน ขอเจ้าหลานตนฟ้าฮ่ามเจ้าช้างจุ่งผายโผดส่งบุญหลวงมาช่วยก้ำจิ่มเตอะ  ว่ามีพระธาตุเจ้าองค์ฅำอัน
                                                                                ๊
               พญาฟานเขาฅำตัวกล้าได้รับจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตนยอดเกล๊าสัพพัญญู ยามเสด็จลงมาจุมปูโลกหล้า มี

               พระญาอินตาเสกขะอูบฅำกุมไว้ พญาฟานฅำตัวกล้าก็ได้กาบมาฝังลับลงไว้ยังข่วงแก้วนั้นแล ขอเจ้าตน

                                         ้
               หลานป๋งปั๋นหล่อพิมพาสารูปเจาองค์โคตรมะ แลหื้อจุขะอูบธาตุพระพุทธเจ้าลงยอดเกล้าเหนือสิระพิมพารูปนั้น
               แลหยาดน้ำหมายตานส่งผลบุญหือตัวข้าก็จักส่งผลานิสงส์ก้ำหื้อขาเข้าสู่ยังทิพพะมานเวียงแก้วด้วยจักมาปกห่ม
                                                                    ้
                                                   ิ
               โอบอุ้มชาวเวียงนี้  แลเจ้าตนหลานฟ้าฮ่ามตโลกะราชาเจาช้างก็จักมีไชยชำนะเหนือพระญาเมืองใตตเอาเมือง
                                                                                                  ี
                                                              ้
                                                                                                 ้
                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๖๗
   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222