Page 581 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 581

จากตำแหน่งของสถานที่ระบุในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ทั้ง แม่กั้ง (สบกั้ง) เป็นสถานท
                                                                                                         ี่
                                                                                                     ั
                                                                                                 ั
               จัดกองทัพของพระเจ้าติโลกราช เมื่อครั้งยกทัพมารับพระญายุทธิษฐิระ พ.ศ. ๑๙๙๔ และตอนยกทพกลบของ
                                       ้
               พระเจ้าติโลกราชพระองค์ไดพักยั้งกองทัพที่ กองหาน (สันนิษฐานกองหิน) จนได้รับข่าวสารจากอุปนิกขิตว่า
               ชาวชคราวจะมาซุ่มโจมตี จนทำให้พระเจ้าติโลกทรงกริ้วและนำกองทัพไปรบชาวชคราวจนได้เมืองชคราว
               กลับมา
                               ถ้าตามสันนิษฐานว่า กองหาน คือ กองหินที่อยู่ในพื้นทอาณาเขตเมืองลบแลง ชาวชคราวท ี่
                                                                                         ั
                                                                           ี่
                                       ี
               กล่าวถึงในตำนานพื้นเมืองเชยงใหม่นั้น ก็ต้องเป็นพื้นที่เมืองลับแลง เพราะเนื่องจากตำแหน่งกองหินซึ่งอยู่บน
               เนินเขาตามเส้นทางลำห้วยก็จะเจอชุมชนที่พูดภาษาล้านนา ซึ่งในช่วงนั้นคนล้านนาที่อยู่พื้นที่อาจจะเรียก
               ตนเองว่า “คนชคราว” ก็เป็นได  ้
                               นอกจากชื่อสถานที่อันระบุในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่แล้ว ยังพบหลักฐานในพื้นทเมือง
                                                                                                     ี่
                                                ้
               ลับแลง ที่กล่าวถึงการยกทัพของพระเจาตโลกราชจากบันทึกตำนานฉบับเกล๊าพระเจายอดคำทิพย์ วัดลบแลง
                                                  ิ
                                                                                     ้
                                                                                                     ั
               หลวงที่ถอดปริวรรตมาจากใบลานต้นฉบับ ความว่า “ฝ่ายพระญาติโลกะมหาราชาฟ้าฮ่ามตนเจ้าช้างเวียง
                                            ่
                                                                                                    ้
                                                                                                       ้
               พิงคณที ตนองค์คำวิเสกในก็มีใจใคก้ำชูพระศาสนาแลชาพาราลุ่มใต้ ด้วยทสธัมม์ในตนมหาราชาเป็นเจา ดวย
               พระญาไธยใต้มัวเมาในอกุศลธัมม์ตัวหมอง จึ่งได้ยกพลเศิกจากลานนาพิงคนเขต ลงมาย่างย่ำตีเศกรบเอาเวียง
                                                                                               ิ
                                                                    ้
               ไธย ฝ่ายพระญาแก้วกุ้มหล้าตนลูกผเกิดแต่นางเวียงหน่อคำเทวีธิดาเจาเมืองแสนหวีและพระญายี่กุมกวามแก้ว
                                             ู้
                                                                        ้
               วงเมืองขึ้นนั่งเวียงสระหนองหลวงก็จำนบคบไหว้ยังพระญาใต้เมืองสะหรีโยธิยาตนนั้น แลจำสั่งแต่งพลเศกจาย
                                                                                                     ิ
                                                                                                   ี
               หาญออกสู้เศิกพระญาเวียงพิงคณที ในยามนั้น พระญาติโลกะมหาราชาฟ้าฮ่ามจนเจ้าช้างเวียงพิงคณททยกพล
                                                                                                    ี่
               เศิกมานักหนาหนำ ทั้ง เชียงใหม่ ลำพูร ลำปาง แพร่ แลเจ้าลาวหลวงพระบาง นับแต่ควันบุกขี้ฝน
                                                                                                        ุ่
                                                                                 ุ
               กุ้มลอยบังบดแสงตาวันยามตอนไดล่วงเข้ายามแลงจึ่งเบาบางตาลง ครั้นมาเถิงจลศักราชได้ ๘๑๓ ตว ศาสนา
                                            ้
                                                                                                  ั
               ล่วงไปแล้ว พุทธศักราชได้ ๑๙๙๔ ในปีรวงเม็ดเดือน ๖ เหนือ เป็ง ๑๐ ค่ำ ยามตะวันลับลงแลงฟ้าฮ่ามแดงดง
                                                                                                         ั่
               ผ้าบันธุกัมพะอินตา ดั่งเตวดาลงมายายผ้าแดงงามหยาดจากฟ้าสวาดลงดิน รอรับต้อนพลเศิกช้างม้าเสนาหลวง
               หลายก็ย่ำเถิงยังเขตแคว้นเวียงสระหนองหลวง เป็นเหตุอันวิสเกสุกใส ชาวเวียงสระหนองก็พากันไห้ห่มขวัญ
               กลัว ตนพระญาก็สั่งพลเสิกเข้าล้อมตีเอาเวียง ตนแก้วกุ้มหล้าพระญาเวียงหนอง ก็คุมพลเข้าสู้ใคว่นับข้าวได ๒
                                                                                                       ้
                                                                                                       ้
               วัน ฝูงชายหาญพลเศิกแลชาวเวียงก็วำวายตายละเรือนนอนโฮงหอและพิหารอารามใหญ่น้อยก็ไหม้หมองตอง
               เหล้มปืนไฟอันไหลดั่งห่าฝน”
                               และอีกเนื้อความหนึ่งที่ปรากฏในบันทึกตำนานฉบับเก๊าพระเจ้ายอดคำทิพย์ วัดลับแลงหลวง
               พบว่า “ ข้างฝ่ายพระญาเจ้าช่างนั่งเวียงลับแลงไชยเวียงเชียงใหม่แก้วกว้างก็แต่งเวียงแลก้ำพระศาสนาทะรงสง
                                                                                                         ั่
               หื้อหาญคำลือหาญคงเสน ๒ เสนาอัมมาตได้ปงฝูงคนเข้าแต่งสร้าง แป๋งวิหารใหม่วัดช้างแล่นหัวข่วง ด้วยอาราม
               หลังเก่าต้องไฟปืนเหล้มกล้าห่าหลวงไหม้ม้างลง” จากเนื้อความทำให้เห็นว่า พระเจ้าติโลกราช หรือใน

               เนื้อความให้นามพระองค์ว่าพระญาติโลกะมหาราชะฟ้าฮ่ามได้ยกทัพด้วยพระองค์เองกระหน่ำตีเมืองชคราว
               (เมืองซากสระหนองหลวง) จนได้เมืองชาวชคราว (เมืองซากสระหนองหลวง) ภายหลังเหตุการณทชาวชคราว
                                                                                                ี่
                                                                                               ์
               ไปผ่าทัพของพระองค์ที่กองหาน (กองหิน) เมื่อวิเคราะห์ตามจดตำแหน่งเราจะพบว่าเส้นทางจากกองหินลงมา
                                                                  ุ
               จะเจอชุมชนอันที่ตั้งของใจกลางเวียง และจะพบกับตำแหน่งวัดใหม่ซึ่งเป็นวัดที่โดนปืนใหญ่ของกองทัพพระเจ้า


                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                         หน้า ๙๕
   576   577   578   579   580   581   582   583   584   585   586