Page 586 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 586

้
               เทิอะ ยุทธิสเถียรหื้อถามว่า เมื่อเข้ามาจักหื้อเป็นชื่อรือชา เจ้าเหนือหัวว่า คูจักเรียกว่าลูก ว่าอั้นชะแล คนใชว่า
               ขอเจ้าเหนือหัวไพค้ำเอาแด่ ว่าอั้น”
                              จากการเปรียบเทียบกับเอกสารประวัติศาสตร์ล้านนาตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่จะพบว่า
                                                                                                     ้
               ตำแหน่งที่เรียกว่า “พระญา” เป็นคำเฉพาะทใช้เรียกตำแหน่งพระมหากษัตริย์หรือเจ้าผครองนครของลานนา
                                                                                       ู้
                                                     ี่
               ซึ่งคำว่า พระญา (พรฯฯยฯา) มีความหมายว่า ผู้เป็นใหญ่,กษัตริย์ ในกรณีคำว่า “พญา” อาจจะเป็นยศ “พระญา”/
               “พระยา” ในตำแหน่งขุนนางของสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ผู้ศึกษาพบว่าในบันทึกจดหมายเหตุลาล    ู
               แบร์จะใช้คำว่า (Pa-yà) เช่นกัน ซึ่งกล่าวในบทที่ ๒ ว่าด้วยประชาชนพลเมืองชาวสยาม หัวข้อที่ ๘ ว่า
               “ตำแหน่งและหน้าที่ราชการในกรุงสยามจะมีความสำคัญก็ขึ้นอยู่ตรงนี้และ บรรดาศักดิ์พระยา (Pa-yà) ,
               อ อ ก ญ า   ( Oc-yà),  อ อ ก พ ร ะ   ( Oc-Prà),  อ อ ก ห ล ว ง   ( Oc-Loüang),  อ อ ก ข ุ น   ( Oc-Coune),

               ออกหมื่น (Oc-Meüing), และออกพัน (Oc-Pan) ซึ่งไม่การระบุว่า ตำแหน่ง (Pa-yà) ที่เป็นเจ้าสืบวงศ ์
               ครอบครองขึ้นตรงต่อสยามนัยยะนี้แสดงเห็นว่าเจ้าผู้ครองเมืองแม่ตาก (ซาก,ชคราว,ชากังราว,ชาการาว?) มิได ้
               อยู่ในราชวงศ์เดียวกันกับพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมีความคิดเห็นว่า เจ้าเมืองตากนี้ น่าจะเปน
                                                                                                        ็
               เจ้าเมืองซาก,ชคราว,ชากังราว,ชาการาว) ที่เป็นราชวงศ์มังรายและมีการเรียกขานตำแหน่งเจ้าเมืองว่า
               “พญา/พระญา” ตามความนิยมของคนล้านนา
                                              ู
                              ๔. จดหมายเหตลาลแบร์ ได้ยังระบุสถานที่หนึ่งนั้นคือ “ทะเลสาบเชียงใหม่” ซึ่งจากข้อมูลท ี่
                                           ุ
                           ึ
               ลาลูแบร์บันทกว่ามีการสับสนว่าตกลง “ทะเลสาบเชียงใหม่” มีอยู่หรือไม่ แต่นักภูมิศาสตร์ของชาวฝรั่งเศสท ี่
                                                                                        ู้
                                                                                                        ุ
                                                        ี
               เข้ามาพร้อมกับลาลูแบร์ได้ยืนยันว่า “ทะเลสาบเชยงใหม่” เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำโดยผแปลจดหมายเหตได ้
               เข้าใจด้วยตนเองว่าน่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งผู้ศึกษามีความคิดเห็นต่างซึ่งแม่น้ำดังกล่าวนั้นน่าจะเป็น
               แม่น้ำน่านมากกว่าเนื่องจาก ผู้ศึกษาได้พบ หนองน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตตำบลด่านแม่คำมันกับตำบลพระ
               เสด็จ (เดิมตำบลทุ่งยั้ง) อำเภอลับแลที่เรียกว่า “บึงมาย” ซึ่งเป็นหนองน้ำที่รองรับน้ำจากลำน้ำแม่พร่องอันเป็น

               สายน้ำหลักที่หล่อเลี้ยงชาวเมืองลับแลงและเมืองทุ่งยั้งหลังจากนั้นก็น้ำจากบึงมายก็จะไหลลงไหลลงคลองละมุ
               งออกคลองกล้วยแล้วลงแม่น้ำน่านที่ตำบลคอรุม อำเภอพิชัย  จังหวัดอุตรดิตถ์ (ตามภาพที่ ๕๔ )
                              ดังนั้นทะเลสาบเชียงใหม่ที่ปรากฏในจดหมายเหตุลาลูแบร์นั้นน่าจะหมายถึงบึงมายอันเป็น
               หนองน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตอำเภอลับแลจังหวัดอุตรดิตถ์


                              ๒.๒ ÁSIA DE JOÁO DE BARROS
                              ในเอกสารบันทึกเอเชียของโจอาร์ เดอบารอส นักเดินทางชาวโปรตุเกสที่เข้ามาในสมัยสมเดจ
                                                                                                        ็
               พระรามาธิบดีที่ ๒ แห่งกรุงศรีอยุธยาความว่า “ Porque fay hum poderofo rio chamado Menam,que
               na lingua dellesquçr dizer máem das águas : 0 qual vem fendendo dalto a baixo todo o reyno
               de Siam,começando no lágo Chaimay โดยแปลความโดยว่า เพราะมีแม่น้ำสายใหญ่ที่เรียกว่า “แมน้ำ”
                                                                                                      ่
                                                            ี
               ซึ่งในภาษาของพวกเขาไม่ได้หมายถึงการพูดถึงน้ำที่ดที่สุด ซึ่งได้แยกออกจากเบื้องบนลงทั่วเมืองสยาม เริ่มท ี่
               ทะเลสาบไชยมัย (เชียงมาย)





                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                        หน้า ๑๐๐
   581   582   583   584   585   586   587   588   589   590   591