Page 590 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 590
ี
เวียงไธย จึ่งเทครัวชาวเชยงรายใส่ไว้ในเวียงสระหนองหลวงนั้น แลยกเอาเจ้ายี่กุมกวามแก้ววงเมืองตนพระญา
่
นั่งเวียง เจ้าพระญาแก้ววงเมืองยี่กุมกวามจิ่งสั่งฝูงชาวเวียงทั้งหลาย แต่เวียงป้านคันน้ำหนองฝายแผบ้านและ
อารามกุมหนอง แลยกพิหารอารามทั้งหลายในโขงแคว้นเขตเวียงสืบสันฐานดั่งหอยสังข์ไจยมงคล มาใส่ไว้ท ี่
เวียงซากสระหนองหลวง หว่างห้วยทะรากแก้วแม่จุมปู แลยกเอาสระหนองหลวงเป๋นดั่งปากขุมขอนสังข์
ยกเอาพิหารใหญ่เป๋นแนวสีมาเขตเวียง หื้อน้ำแม่ห้วยแก้วจุมปูไหลผ่าน แลน้ำแม่ห้วยทรายคำไหลล้อมหนวัน
ออกมีวัดเจติยะพิหารอารามเป๋นแนวหนเหนือมีวัดช้างแล่นหัวข่วงสีมาราม แลริมตาฝั่งน้ำแม่ห้วยแก้วจมปู
เขตนาป่าส้มป่องป่าหมากหนามทูนเรียนมีนาป่าโป่งวัดเชตะวันพิหาร หนวันตกเบื้องเหนือมีวัดป่าไม้แดง
ถัดล่องลงอว่ายวันตกมาแลเป๋นวัดเวฬุวันพิหารป่าไผ่ ถัดล่องลงมายังหนวันตก เป๋นวัดตาละนาลิเกระม่อน
่
ี
ป่าป้าวป่าตาลจำบอนแลม่อนระสดอยกั้ง และม่อนเกล๊าปูเจ้าดอยสูงเป็นเขตบังยังวันตก ถัดวนลองริไปหนวัน
ตกเบื้องใต้ มีวัดพนมม่อนสมพิหารปงจำน้ำ และหนใต้นั้น มีวัดมหาวันพิหารข่วงน้ำล้อม แลสันดอยเกลาเจาปู่
้
๊
ื
เป็นแนวตุ้มเวียง ถัดมาเป็นวัดบุปผาราม ถัดวนขึ้นไปจบหนวันออกเบื้องใต้ มีหอไต้ แลก๋างเวียงมีพิหารสายดอ
เวียงเป็นไจยเวียงริมตาฝั่งหนองสระหลวงนั้นแล”
โดยข้อมูลดังกล่าวที่พบในบันทึกตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์ วัดลับแลงหลวง ผู้ศึกษาขอ
สรุปผลการวิเคราะห์ เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้
๑. จากข้อมูลในบันทึกตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์ วัดลับแลงหลวงความว่า “ลุเถิง ยังขุนองค ์
คำพระญาไสลือไธย ผู้เป็นใหญ่บนด้าวเจ้าเวียงไธย ได้รับตราบอกใบลุกมาแต่เจ้าต๋นยี่กวามแก้ววงเมือง พระ
เจ้าเวียงเชียงราย ขอกุมพลเสิกขึ้นเหนือลุเถิงยังเขตแค้วนล้านนา ทัสสะลักขะเขตตาบุรีสะหรีคณทีเชียงใหม่
จักขอกินเวียงล่องลงใต้แลกวาดเทครัวชาวเชียงราย ลงเสี้ยงเวียง” จากการเปรียบจากเอกสารประวัติศาสตร์
อื่น ๆ พบว่า ในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ได้ระบุเหตการณที่พระญาไสลือไทนำเจายี่กุมกามพร้อมคนเชยงราย
ุ
้
์
ี
มาไว้ที่เมืองซาก เช่นกันตามเนื้อความที่ระบุว่า“วันนั้น พระญาไสลือไพนอนหนองไผ่จิ่มแง่เง้า แล้วขึ้นเมือ
เหนือ ข้ามพิงมาวันตกไพตามทางเปนเถื่อน อันนึ่งพระญาไสลือผ่อดูคระบวนเมืองเชียงราย หันดอยช้างกุมเปน
รูปหนูดอยถ้ำพระเปนรูปช้าง พระญาหันดอยทัง ๒ เปนรูปหนูรูปช้าง จิ่งจากับด้วยคนทังหลายว่าเมืองอันนี้
้
ผู้ใดอยู่ บ่สมริทธีเปนดีมีเขาของสังแล ว่าอั้น พระญาไสลือจิ่งกวาดเอาชาวเชียงราย กับทังพ่อทาวยี่กุมกามมือ
้
รอดเมืองสุกโขทัย พระญาไสลือหื้อพ่อท้าวยี่กุมกามกินเมืองอัน ๑ ชื่อเมืองซาก ลวดเมี้ยนชั่วเมืองใต้ วันนั้น
แล”นอกจากนั้นในเอกสารพงศาวดารโยนกที่พระยาประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค) พบเนื้อความที่ระบุถึง
้
เหตุการณ์เช่นเดียวกันกล่าวคือ “พระยาไสลือไทยจึงแต่งให้ทาวยี่กุมกามไปครองเมืองซาก (อยู่แม่น้ำซากแคว
ยม)” นอกจากนั้นผู้ศึกษายังพบสาเหตที่พระญาไสลือไทนำเจ้ากี่กุมกามพร้อมชาวเชียงรายมาอยู่เมืองซากจาก
ุ
พงศาวดารราชวงศ์หมิง หมิงสือ (明史) และบันทึกความจริงแห่งราชวงศ์หมิง หมิงสือลู่ (明實錄) ใน
บทความบทความทางวิชาการ “ตำนานติดส่วยห้อเมื่อล้านนารบชนะราชวงศ์หมิง?” เขียนโดยนับเก้า เกียรต ิ
่
ฉวีพรรณ ที่ระบุว่า วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๑๙๔๗ ราชสำนักหมิง (大明) ได้รับรายงานว่า ขุนนางฝายในท ี่
ราชสำนักหมิงส่งไปเชอ หลี่ (車里 สิบสองปันนา) ระหว่างทางผ่านปาไป่ต้าเตี้ยน (八百大甸 ล้านนา) ถูก
“เตาเจาซั่น” (刀招散 ท้าวเจ้าสาม คือพระญาสามฝั่งแกน) ขัดขวาง
การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
หน้า ๑๐๔