Page 592 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 592

ื
               ปราบปราม แต่จงจับตัวคนโฉดที่เป็นหัวหน้าแลพึงปลอบขวัญคนทั้งหลาย อย่าได้ฆ่าสังหารคนมาก แลจงเลอก
               ผู้ที่ประเสริฐในญาติวงศ์นั้นทูลขอแต่งตั้งมา หากสำนึกผิดยอมรับโทษ ก็จงหยุดพลอย่าได้เคลื่อนทัพ”
                              นอกจากนั้นเอกสารหมิงสือลู่ได้ระบุเหตุการณ์ของการทำศึกระหว่างจีนกับล้านนาและ
               เหตุการณ์สิ้นสุดของศึกนี้ ความว่า “...วันอู้เฉิน เดือน ๑๒ ปีที่ ๓ แห่งรัชศกหย่งเล่อ (วันที่ ๒๗ ธันวาคม

                                                                                               ั
               พ.ศ.๑๙๔๘) มู่เซิ่งผู้เป็นซีผิงโหวรักษายูนนานกราบทูลว่า “กองทัพที่รับพระราชโองการกับกองทพของเชอหล  ี่
                                                                                                        ี้
               (สิบสองพันนา) และเซวียนเว่ยอื่นไปถึงเขตแดนปาไป่ (ล้านนา) แล้ว ได้ตีเหมิ่งลี่ (猛利 เมืองล?)
               สือหยา (石厓) และเจ่อต๋า(者答) สองไจ้ (寨 หมู่บ้าน) และไปถึงเจิ่งเซี่ยน (整線 เชียงแสน?) ทัพมู่ปัง

               (แสนหวี) ทำลายเจียงซย่า (江下 เชียงราย?) และอื่น ๆ ได้สิบกว่าไจ้ ปาไป่ (ล้านนา) หวาดกลัว สงคนมาถึง
                                                                                                 ่
               ค่ายทหารและขอรับผิด เกล้ากระหม่อมน้อมรับพระราชโองการ ตั้งทัพไม่เคลื่อนพล อันเซวียนเว่ย (ข้าหลวง
                                                                                                        ู
               กำกับ) เขตปกครองเชอหลี่ (สิบสองพันนา) และอื่นๆ ต่างเตรียมเคลื่อนพลกลับ พร้อมนำคำกราบบังคมทล
                                                                                                     ี่
                                                                                                        ิ
               ของปาไป่ (ล้านนา) ขึ้นถวาย” จึงมีพระราชโองการไปยังเซวียนเว่ย (ข้าหลวงกำกับ) เขตปกครองเชอหล (สบ
               สองปันนา) มู่ปัง (แสนหวี)...เช่นเตาเสียนเต๋อ...และอื่นๆ ความว่า “ก่อนหน้านี้ปาไป่ (ล้านนา) ไม่เคารพคำสง
                                                                                                         ั่
               ราชสำนัก เจ้าทั้งหลายขอยกทัพไปปราบปราม แสดงความจงรักภักดีของพวกเจา ได้อนุญาตให้ตามที่ขอ บัดนี้
                                                                                 ้
               ซีผิงโหวทูลว่าปาไป่ (ล้านนา) ได้ยอมรับผิดแลสวามิภักดิ์ อันผู้มีโทษผิดและยอมแก้ไข พึงอภัยให้ เมื่อหนังสอนี้
                                                                                                       ื
               มาถึง จงหยุดทัพอย่าได้โจมตีต่อ” จากนั้นก็มีพระราชโองการให้มู่เซิ่งผู้เป็นซีผิงโหวและคนอื่นๆ ถอยทัพกลับ”

                              จากข้อมูลในเอกสารหมิงสือลู่พบว่า หลังจากที่จักรพรรดิหมิงไท่จงมีพระบรมราชโองการต ี
                                                                                                       ื
               ล้านนาเหล่าทัพจากรัฐสิบสองปันนา รัฐสุโขทัย และอื่น ๆ ได้ตีเมืองถึงเขตดินแดนของลานนา ทั้งเมืองล สอห
                                                                                                     ี้
                                                                                       ้
               ยา เจ่อต๋า สองไจ้ ไปถึง เชียงแสน เชียงราย จนทำให้พระญาสามฝั่งแกนส่งทูตมาขอรับผิดแลยอมสวามิภักดิ์
               โดยข้าหลวงกำกับได้รายงานความคืบหน้าการศึกนี้และนำคำกราบบังคมทูลของพระญาสามฝั่งแกนในการ
               ยอมรับผิดและยอมสวามิภักดิ์ขึ้นทูลเกล้า จักรพรรดิหมิงไท่จงจึงมีพระราชโองการว่าให้อภัยแก่พระญาสามฝง
                                                                                                         ั่
               แกนพร้อมกับให้ถอยทัพกลับ
                                                                                  ื
                                                                ุ
                                                                                         ้
                              ด้วยเหตุผลนี้ ผู้ศึกษาจึงสันนิษฐานสาเหตของการที่พระญาไสลอได้นำเจายี่กุมกามพร้อมกับ
               ชาวเชียงรายไปอยู่เมืองซากในรัฐสุโขทัย จากศึกชิงบังลังก์ล้านนาระหว่างเจ้ายี่กุมกามและพระญาสามฝงแกน
                                                                                                     ั่
               ผนวกกับที่ล้านนาเกิดศึกกับจักรพรรดิหมิงไท่จงในการขัดขวางราชทูตของจีนและมิได้ส่งราชการบรรณการ
                                                                                                        ี
                                                                                  ี่
                              ี
                                    ู้
               ตามราชประเพณให้จีน ผศึกษาสันนิษฐานว่าด้วยสถานการณ์อันประจวบเหมาะทเชียงใหม่เจอศึกใหญ่จากจน
                                                                                          ้
               เจ้ายี่กุมกามจึงใชโอกาสนี้ในการแก้แค้นพระญาสามฝั่งแกนซึ่งมีฐานะเป็นพระอนุชาของเจายี่กุมกามและเป็น
                              ้
               คู่อริกันในการแย่งชิงราชบังลังก์ล้านนาโดยยกทัพไปพร้อมกับพระมหาธรรมราชาธิราช ที่ ๒ (ไสลือ)
                                                                                                  ั้
               โดยตำนานพื้นเมืองเชียงระบุว่าทัพของเจายี่กุมกามและพระญาไสลอเข้าปล้นเมืองพะเยาและสงให้ตงหอรบท ี่
                                                                                             ั่
                                                 ้
                                                                       ื
               หนองเต่า เมื่อยกทัพถึงเมืองเชียงใหม่พระญาไสลือได้ไปตั้งทัพอยู่เวียง ๗ รินและขึ้นไปสรงน้ำที่ที่ดอยผาลาด
               หลวงครั้งนั้นชาวเวียงเหลือนำโดยเจาแสนผานองให้ตั้งค่ายรับศึกอยู่ที่หัวเวียง ๗ ริน โดยนำเกวียนมาตั้งเรียง
                                              ้
               กันประมาณ ๒๐๐ เล่ม และปักตุงแง ตุงดำ ตุงขาว เต็มไปหมด ด้วยความสงสัยของพระญาไสลือจึงจับชาว
                                                                                                       ู้
               เชียงใหม่ได้ ๑ คนแล้วเข้าไปถามว่า ชาวเชียงใหม่ผนั้นเลยให้ข้อมูลว่า เขากำลังเตรียมจัดกำลังทัพเพื่อเข้าสศก
                                                                                                        ึ
                                                         ู้
               พระญาไสลือทรงทราบข่าวสารนั้นจึงเกิดความหวาดกลัวและสั่งให้ถอยทัพในยามดึกนั้น แล้วเดินทัพข้ามแม่ปิง
                                                                                            ั่
                                                            ึ
                                                       ั
               ตรงที่สบกลางไปทางตะวันออก และสั่งให้แต่งทพรับศกแบ่งเป็น ๓ หมู่ พระญาสามฝั่งแกนสงหมื่นหมากขาม
                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                        หน้า ๑๐๖
   587   588   589   590   591   592   593   594   595   596   597